หนุ่มสาวถามว่า
ฉันจะรับมือกับความเครียดได้อย่างไร?
คุณเครียดมากขนาดไหน?
-
ฉันกำลังจมอยู่ในความเครียด
-
ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว
-
ฉันยังรับมือได้อยู่
-
ความเครียดเหรอ? ฉันไม่เคยรู้ว่าเป็นอย่างไร
การรับมือกับความเครียดเป็นเหมือนกับการใช้รถลากตู้คอนเทนเนอร์ที่หนักอึ้ง. รถบรรทุกคันใหญ่สามารถลากตู้คอนเทนเนอร์ไปไกลแค่ไหนก็ได้โดยไม่มีปัญหา. แต่รถยนต์ธรรมดาทำอย่างนั้นไม่ได้. การลากตู้คอนเทนเนอร์ที่หนักขนาดนั้นแม้แต่ระยะทางสั้น ๆ ก็จะทำให้เครื่องยนต์เสียหาย. เช่นเดียวกันกับ “เครื่องยนต์” ของคุณ ถ้าคุณเครียดมากเกินไป ร่างกายของคุณก็จะได้รับผลกระทบ.
สภาพการณ์เช่นนั้นไม่มีทางแก้ไขได้ไหม? ไม่เลย! เพื่อจะไม่หมดแรง คุณจำเป็นต้องปลดของหนักที่แบกไว้หรือเพิ่มพลังเครื่องยนต์ของคุณ. ที่จริง คุณสามารถทำได้ทั้งสองอย่าง. ลองดูว่าคุณจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร.
ปลดของหนักที่คุณแบกไว้
ปัญหา: มีตารางเวลาแน่นเกินไป.
“บางคนมาขอให้ฉันช่วยบางเรื่องหรือชวนไปสังสรรค์กันในช่วงที่ฉันมีงานที่ต้องทำ. ฉันก็แค่ไม่อยากทำให้ใครเสียใจ.”—คารีนา *
วิธีแก้: หัดปฏิเสธ.
คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “ปัญญาอยู่กับคนถ่อมตัว.” (สุภาษิต 11:2, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน) ความถ่อมใจหรือการยอมรับว่าตัวเองมีข้อจำกัดจะช่วยคุณให้ปฏิเสธ ก่อนที่คุณจะมีหลายสิ่งที่ต้องทำมากเกินไป.
แน่นอน คุณจะไม่ปฏิเสธทุกเรื่องเสมอไป ตัวอย่างเช่น เมื่อพ่อแม่บอกให้คุณทำงานบ้าน! แต่ถ้าคุณยอมให้ทุกคนเพิ่มงานให้คุณ ในที่สุดคุณจะหมดเรี่ยวหมดแรง. แม้แต่รถบรรทุกที่ใหญ่ที่สุดก็รับน้ำหนักได้จำกัด.
ข้อแนะ: ถ้าคุณรู้สึกว่ายากที่จะปฏิเสธคนนั้นตรง ๆ ลองพูดว่า “ฉันจะบอกคุณทีหลังนะ.” จากนั้น ก่อนที่จะให้คำตอบ ถามตัวเองว่า ‘ฉันมีเวลาและกำลังที่จะทำสิ่งนั้นได้จริง ๆ ไหม?’
ปัญหา: การผัดวันประกันพรุ่ง.
“ถ้าฉันรู้สึกว่างานไหนยาก ฉันจะทิ้งมันไว้ก่อน. แต่ฉันจะกังวลว่าต้องทำงานนั้นตลอดเวลา. ในที่สุด ฉันก็เริ่มทำงานนั้น แล้วก็ต้องรีบทำ ฉันเลยเครียดมาก.”—เซเรนา
วิธีแก้: เริ่มทำ แม้ว่าคุณจะยังทำไม่เสร็จในตอนนั้น.
คัมภีร์ไบเบิลแนะนำว่า “อย่าเกียจคร้านในการงานของพวกท่าน.” (โรม 12:11) การต้องทำงานที่ยากก็เป็นเรื่องที่แย่พออยู่แล้ว แล้วทำไมคุณจะทำให้ยุ่งยากยิ่งขึ้นโดยการผัดวันประกันพรุ่ง? การผัดวันประกันพรุ่งจะยิ่งทำให้คุณกังวลนานขึ้น!
สร้างแรงกระตุ้นโดยเขียนรายการสิ่งที่ต้องทำ. แบ่งงานชิ้นใหญ่ ๆ ให้เป็นงานย่อย ๆ. แครอล หญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งบอกว่า “ฉันชอบเขียนรายการสิ่งที่ต้องทำมาก. ปกติแล้วฉันจะทำสิ่งที่ไม่ชอบที่สุดก่อน แล้วเมื่อฉันทำงานแต่ละอย่างเสร็จ ฉันจะขีดฆ่ารายการนั้นทิ้งซึ่งทำให้งานเสร็จง่ายขึ้น. กว่าคุณจะรู้ตัว ก็ถึงรายการที่คุณอยากทำแล้ว ซึ่งเป็นงานที่น่าทำมากกว่า!”
ข้อแนะ: ถ้าคุณรู้สึกว่ายากที่จะเริ่มทำงานอย่างหนึ่ง ให้ตั้งนาฬิกาปลุก 10 หรือ 15 นาทีและเริ่มทำงานนั้นทันที. เมื่อนาฬิกาดังขึ้น คุณก็ได้ทำงานนั้นเสร็จไปแล้ว 10 หรือ 15 นาที. เมื่อคุณได้เริ่มทำงานนั้นแล้ว คุณอาจแปลกใจที่รู้ว่าง่ายขึ้นที่จะทำงานต่อไป.
ดูแลห้องให้เรียบร้อยอยู่เสมอ! เมื่อคุณต้องคุ้ยหาการบ้านหรือเสื้อผ้าในห้องที่รก คุณจะยิ่งเครียดมากขึ้น. เพื่อจะไม่เริ่มต้นวันใหม่อย่างวุ่นวาย ให้จัดการห้องให้เรียบร้อยห้านาทีก่อนเข้านอน
เพิ่มพลัง “เครื่องยนต์” ของคุณ
ดูแลสุขภาพของคุณ.
ผู้เชี่ยวชาญเห็นด้วยว่าการกินอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายเป็นประจำ และการพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยคุณให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากขึ้น. * การดูแลสุขภาพไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากอย่างที่คิด แค่คุณเริ่มทำตามขั้นตอนง่าย ๆ. ตัวอย่างเช่น การนอนหลับ. ลองทำตามวิธีต่อไปนี้.
-
นอนหลับให้เพียงพอ. เข้านอนและตื่นนอนเวลาเดิมทุกวัน โดยเฉพาะในวันที่ต้องไปโรงเรียนหรือไปทำงาน.
-
ให้เวลาตัวเองได้พักผ่อน. อย่าออกกำลังกายสามชั่วโมงก่อนนอน นอกจากนั้น พยายามอย่ากินมากเกินไปและอย่าดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนก่อนนอน.
-
เมื่อนอนหลับ พยายามทำให้ห้องนอนของคุณมืด เงียบ และน่านอน.
ขอความช่วยเหลือจากคนอื่น.
อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่และเพื่อน ๆ. การทำอย่างนั้นจะช่วยคุณได้จริง ๆ ไหม? แน่นอน รายงานการศึกษาหนึ่งเผยว่าการเกื้อหนุนทางอารมณ์ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดและระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งปกติแล้วเกิดจากความเครียดที่เพิ่มขึ้น.
รายงานนี้สอดคล้องกับข้อคัมภีร์ที่ว่า “ความกระวนกระวายในใจคนถ่วงเขาลง แต่ถ้อยคำที่ดีทำให้เขายินดี.” (สุภาษิต 12:25, ฉบับมาตรฐาน) เมื่อ “ความกระวนกระวาย” ทำให้คนรู้สึกแย่ เพื่อนแท้จะพูด “ถ้อยคำที่ดี” เพื่อให้กำลังใจคุณ ซึ่งอาจช่วยคุณให้รับมือกับความเครียดได้.
คุณยังต้องการตัวช่วยเพื่อรับมือกับความเครียดอีกไหม? ดูบทความต่าง ๆ ต่อไปนี้ในหนังสือคำถามที่หนุ่มสาวถาม—คำตอบที่ได้ผล เล่ม 1 และเล่ม 2 จัดพิมพ์โดยพยานพระยะโฮวา.
เล่ม 1
เล่ม 2
^ วรรค 12 บางชื่อในบทความนี้เป็นชื่อสมมุติ.
ลองถามพ่อแม่ของคุณดูสิ
พ่อแม่ มีความเครียดอะไรในชีวิตบ้าง? พ่อแม่มีวิธีอะไรที่ใช้รับมือกับความเครียดได้ดีที่สุด?