ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

 การสนทนากับเพื่อนบ้าน

พระเจ้าสนใจความทุกข์ของเราไหม?

พระเจ้าสนใจความทุกข์ของเราไหม?

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการสนทนาระหว่างพยานพระยะโฮวากับเพื่อนบ้าน. ให้เราจินตนาการว่าพยานฯชื่อมีนามาที่บ้านของผู้หญิงคนหนึ่งชื่อโสพิศ.

พระองค์ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?

มีนา: ฉันกำลังคุยกับทุกคนในละแวกนี้และให้แผ่นพับที่มีชื่อว่าคุณอยากรู้ความจริงไหม? เชิญรับไว้อ่านค่ะ.

โสพิศ: เรื่องศาสนาใช่ไหม?

มีนา: ค่ะ. อยากให้คุณสังเกตคำถามหกข้อในแผ่นพับนี้. มีข้อไหนไหมคะที่คุณ—

โสพิศ: ขอโทษนะคะ ถ้าจะคุยกับฉันเรื่องนี้คุณคงเสียเวลาเปล่า.

มีนา: ทำไมหรือคะ?

โสพิศ: บอกตรงๆนะ ฉันไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าหรอก.

มีนา: ขอบคุณค่ะที่บอกให้รู้. แต่ขอถามหน่อยนะคะ คุณคิดอย่างนี้มาตลอดไหม?

โสพิศ: ไม่หรอก เมื่อก่อนฉันก็เคยไปโบสถ์ แต่เลิกไปนานแล้ว.

มีนา: แสดงว่าต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้คุณหมดศรัทธาในพระเจ้าใช่ไหมคะ?

โสพิศ: ค่ะ แม่ของฉันถูกรถชนเมื่อ 17 ปีที่แล้ว.

มีนา: เสียใจด้วยนะคะ. แล้วตอนนี้แม่ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?

โสพิศ: ก็เป็นอัมพาตตั้งแต่ตอนนั้น.

มีนา: คุณคงทุกข์ใจมากใช่ไหมคะ?

โสพิศ: ใช่. ฉันอดคิดไม่ได้ว่าถ้าพระเจ้ามีจริง ทำไมพระองค์ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น? ทำไมพระเจ้ายอมให้เราเจอกับเรื่องร้ายๆแบบนี้?

ผิดไหมที่จะถาม?

มีนา: ฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณนะคะ. เมื่อเรามีความทุกข์ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะถามอย่างนี้. แม้แต่ผู้รับใช้พระเจ้าในสมัยคัมภีร์ไบเบิลก็เคยสงสัยเหมือนกัน!

โสพิศ: จริงหรือ?

มีนา: ใช่ค่ะ. ขอให้คุณดูตัวอย่างจากคัมภีร์ไบเบิลด้วยกันได้ไหมคะ?

โสพิศ: ได้ค่ะ.

มีนา: ขอสังเกตคำพูดของฮะบาฆูคผู้พยากรณ์ที่ซื่อสัตย์ในหนังสือฮะบาฆูคบท 1 ข้อ 2 และ 3. เขาถามพระเจ้าว่า “โอ้พระยะโฮวา, ข้าพเจ้าจะร้องไห้นานเท่าใด, แลพระองค์จะไม่ทรงสดับฟังหรือ. ข้าพเจ้าร้องถึงพระองค์เพราะเหตุร้าย, แลพระองค์จะไม่ทรงโปรดช่วยให้รอด. เหตุใดพระองค์ให้ข้าพเจ้าเห็นความชั่ว?” คำถามเหล่านี้คล้ายกับที่คุณเคยสงสัยใช่ไหม?

โสพิศ: ใช่ค่ะ.

มีนา: พระเจ้าไม่เคยด่าว่าหรือตำหนิฮะบาฆูคที่ถามคำถามเหล่านี้และพระองค์ไม่ได้บอกฮะบาฆูคว่าเขาต้องมีความเชื่อมากกว่านี้.

โสพิศ: ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย.

พระยะโฮวาเกลียดชังความทุกข์

มีนา: คัมภีร์ไบเบิลสอนว่าพระเจ้าสังเกตเห็นความทุกข์ของเราและพระองค์ห่วงใยเรา.

โสพิศ: คุณรู้ได้อย่างไร?

มีนา: ฉันอยากให้คุณดูตัวอย่างหนึ่งในเอ็กโซโด 3:7. คุณจะช่วยอ่านข้อนี้ได้ไหม?

โสพิศ: ค่ะ. ข้อนี้อ่านว่า “พระยะโฮวาจึงตรัสว่า, ‘แท้จริงเราได้เห็นความทุกข์ของพวกพลไพร่ของเราที่อยู่ประเทศอายฆุบโต; เราได้ยินเสียงร้องของเขาเพราะการกระทำของนายงานนั้น; เรารู้ถึงความทุกข์โศกของเขา.’”

มีนา: ขอบคุณค่ะ. จากข้อคัมภีร์นี้พระเจ้าสังเกตเห็นความทุกข์ของมนุษย์ไหมคะ?

 โสพิศ: เห็นค่ะ.

มีนา: แต่พระองค์ไม่ใช่แค่มองผ่านๆว่าเกิดอะไรขึ้น. ขอคุณสังเกตตอนท้ายของข้อนี้อีกครั้งหนึ่ง. พระเจ้าตรัสว่า “เรารู้ถึง ความทุกข์โศกของเขา.” นี่เป็นคำพูดของพระเจ้าที่เย็นชาและไม่สนใจมนุษย์ไหม?

โสพิศ: ไม่นะ.

มีนา: ใช่ค่ะ. พระเจ้าไม่เพียงสังเกตเห็นปัญหาของเราแต่พระองค์เศร้าพระทัยเมื่อเห็นเราเดือดร้อน.

โสพิศ: ก็จริงนะ.

มีนา: ให้เรามาดูอีกตัวอย่างหนึ่งว่าพระเจ้ารู้สึกอย่างไรตอนที่ประชาชนของพระองค์ถูกกดขี่. เรื่องนี้บันทึกไว้ในวินิจฉัย 10:16. ตอนท้ายของข้อนี้อ่านว่า “พระองค์ทรงโทมนัสพระทัย, ด้วยความลำบากเดือดร้อนของพวกยิศราเอล.” จากข้อนี้คุณคิดว่าพระเจ้าสนใจความทุกข์ของมนุษย์เราไหม?

โสพิศ: ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น.

มีนา: ถูกแล้วค่ะ พระเจ้าทรงสนใจและห่วงใยเรามากจริงๆ. พระองค์ไม่อยากเห็นเราเป็นทุกข์. เมื่อเราทุกข์ พระองค์ก็ทุกข์ไปด้วย.

ทำไมพระองค์ไม่จัดการเสียที?

มีนา: ฉันมีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากบอกให้คุณรู้.

โสพิศ: อะไรคะ?

มีนา: ฉันอยากให้คุณดูว่าคัมภีร์ไบเบิลสอนอย่างไรเรื่องฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า. ฉันคิดถึงข้อคัมภีร์หนึ่งที่ยิระมะยา 10:12. คุณจะช่วยอ่านได้ไหมคะ?

โสพิศ: ได้ค่ะ. ข้อนี้อ่านว่า “พระยะโฮวาได้สร้างแผ่นดินโดยฤทธิ์เดชของพระองค์, พระองค์ได้ตั้งพิภพนี้ด้วยปัญญาของพระองค์, แลได้ขึงท้องฟ้าแผ่ออกโดยพระสติ.”

มีนา: ขอบคุณค่ะ. คิดดูสิ พระเจ้าต้องมีฤทธิ์อำนาจมากจริงๆใช่ไหมเพื่อจะสร้างทุกสิ่งในเอกภพที่กว้างใหญ่นี้?

โสพิศ: ใช่.

มีนา: แล้วถ้าพระเจ้าสามารถสร้างสิ่งต่างๆในธรรมชาติรอบตัวเราได้ คุณคิดว่าพระองค์มีอำนาจควบคุมสิ่งเหล่านั้นไหม?

โสพิศ: มีสิ.

มีนา: ขอให้คิดถึงตัวคุณเอง ทำไมคุณเป็นทุกข์เมื่อเห็นแม่นอนป่วยอย่างนี้?

โสพิศ: ก็เพราะฉันรักแม่ของฉัน.

มีนา: ถ้าวันนี้คุณมีอำนาจที่จะทำให้แม่ของคุณหายป่วย คุณจะทำไหม?

โสพิศ: แน่นอน.

มีนา: แล้วลองคิดดูนะคะ คัมภีร์ไบเบิลสอนเราว่าพระเจ้าสังเกตเห็นความทุกข์ของเรา พระองค์สงสารเรา และพระองค์มีฤทธิ์อำนาจมหาศาล. นึกภาพดูสิว่าพระเจ้าคงต้องควบคุมตัวเองมากขนาดไหนที่จะไม่ ยื่นมือเข้ามาจัดการกับความทุกข์ของเรา?

โสพิศ: ฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลย.

มีนา: แต่พระองค์คงต้องมีเหตุผลที่ดีที่ยังไม่เข้ามาแทรกแซงและขจัดความทุกข์ของเราในเวลานี้. *

โสพิศ: ก็คงเป็นอย่างนั้น.

มีนา: ฉันอยากกลับมาคุยเรื่องนี้กับคุณอีก. อาทิตย์หน้าเวลานี้คุณจะอยู่บ้านไหมคะ?

โสพิศ: อยู่ค่ะ.

มีนา: ฉันชื่อมีนา. คุณชื่ออะไรคะ?

โสพิศ: โสพิศ.

มีนา: ดีใจที่ได้รู้จักคุณโสพิศ. เราพบกันอาทิตย์หน้านะคะ. *

มีเรื่องใดในคัมภีร์ไบเบิลที่คุณสงสัยเป็นพิเศษไหม? คุณอยากรู้เกี่ยวกับความเชื่อและกิจกรรมทางศาสนาของพยานพระยะโฮวาไหม? ถ้าเช่นนั้น คราวหน้าเมื่อคุณพบพยานฯ โปรดอย่าลังเลที่จะถามพวกเขา. พยานฯยินดีพูดคุยกับคุณในเรื่องเหล่านี้.

^ วรรค 57 สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูบท 11 ของหนังสือคัมภีร์ไบเบิลสอนอะไรจริงๆ? จัดพิมพ์โดยพยานพระยะโฮวา.

^ วรรค 63 ในโอกาสต่อไป บทความนี้จะอธิบายเหตุผลที่พระเจ้ายอมให้มีความทุกข์.