ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เราพบสิ่งที่เราแสวงหาแล้ว

เราพบสิ่งที่เราแสวงหาแล้ว

เรา​พบ​สิ่ง​ที่​เรา​แสวง​หา​แล้ว

เล่า​โดย​เบิร์ต ทอลล์แมน

ผม​มี​ความ​สุข​มาก​เมื่อ​นึก​ถึง​ชีวิต​ใน​วัย​เด็ก​ตอน​ที่​พวก​เรา​อาศัย​อยู่​ใน​เขต​คุ้มครอง​อินเดียน​แดง​เผ่า​บลัด ซึ่ง​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ชน​พื้นเมือง​เผ่า​แบล็ก​ฟุต​ใน​มณฑล​แอลเบอร์ตา ประเทศ​แคนาดา. เรา​อยู่​ไม่​ไกล​จาก​เทือก​เขา​รอกกี​ใน​แคนาดา​และ​ทะเลสาบ​หลุยส์​ที่​สวย​งาม.

ผม​มา​จาก​ครอบครัว​ที่​มี​ลูก​ชาย​เจ็ด​คน ลูก​สาว​สอง​คน. พี่ ๆ น้อง ๆ ของ​ผม​และ​ตัว​ผม​จะ​ไป​ที่​บ้าน​คุณ​ยาย​บ่อย ๆ. ท่าน​ขยัน​ขันแข็ง​และ​สอน​เรา​ให้​รู้​จัก​วิถี​ชีวิต​แบบ​ดั้งเดิม​ที่​ชน​เผ่า​แบล็ก​ฟุต​ปฏิบัติ​กัน​มา​หลาย​ชั่ว​อายุ​คน​จน​ถึง​สมัย​ของ​เรา. ผม​เรียน​รู้​วิธี​เก็บ​ลูก​เบอร์รี​ป่า, ทำ​อาหาร​แบบ​พื้นเมือง, และ​ทำ​สวน. คุณ​ตา​และ​คุณ​พ่อ​เคย​พา​ผม​ไป​ล่า​สัตว์​และ​ตก​ปลา. พวก​เรา​ล่า​กวาง, กวาง​เอลก์, และ​กวาง​มูส​เพื่อ​นำ​มา​ทำ​อาหาร​และ​เอา​หนัง​ของ​มัน​มา​ใช้. พ่อ​แม่​ของ​เรา​ทำ​งาน​หนัก​และ​ท่าน​ก็​ทำ​อย่าง​ดี​ที่​สุด​เพื่อ​ให้​เรา​มี​บ้าน​ที่​น่า​อยู่. ชีวิต​ใน​เขต​คุ้มครอง​นั้น​เป็น​ชีวิต​ที่​มี​แต่​ความ​สุข​เพลิดเพลิน.

แต่​แล้ว​ทุก​สิ่ง​ก็​เปลี่ยน​ไป​เมื่อ​คุณ​ยาย​เสีย​ชีวิต​ใน​ปี 1963. ตอน​นั้น​ผม​อายุ​ห้า​ขวบ และ​ผม​ก็​งุนงง​กับ​เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น. ทุก​ถ้อย​คำ​ที่​ผม​ได้​ยิน​ไม่​ได้​เป็น​การ​ปลอบโยน​อย่าง​แท้​จริง​เลย. แม้​ว่า​ผม​จะ​เป็น​เด็ก​มาก แต่​ผม​ก็​ยัง​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘ถ้า​มี​พระ​ผู้​สร้าง แล้ว​พระองค์​อยู่​ที่​ไหน? เหตุ​ใด​คน​เรา​จึง​ตาย?’ บาง​ครั้ง​ผม​จะ​เริ่ม​ครวญ​คราง​เพราะ​ความ​รู้สึก​ข้องขัดใจ. เมื่อ​คุณ​พ่อ​คุณ​แม่​ถาม​ผม​ว่า​เป็น​อะไร​หรือ​เปล่า ผม​ก็​เพียง​แต่​บอก​ท่าน​ว่า ผม​ปวด​โน่น​ปวด​นี่.

ติด​ต่อ​กับ​คน​ผิว​ขาว

ก่อน​คุณ​ยาย​เสีย​ชีวิต เรา​แทบ​จะ​ไม่​ได้​ติด​ต่อ​กับ​คน​ผิว​ขาว​เลย. เมื่อ​ใด​ก็​ตาม​ที่​เจอ​คน​ผิว​ขาว เรา​ก็​มัก​จะ​ได้​ยิน​คำ​พูด​ต่าง ๆ อย่าง​เช่น “เขา​ก็​เป็น​แค่​คน​ผิว​ขาว​ที่​ชั่ว​ช้า, ละโมบ, และ​ไร้​ความ​รู้สึก. พวก​นี้​ไม่​มี​ความ​เป็น​มนุษย์​หรอก.” เคย​มี​คน​เตือน​ผม​ว่า คน​ผิว​ขาว​ส่วน​ใหญ่​เป็น​คน​ไม่​จริง​ใจ และ​ไว้​ใจ​ไม่​ได้. แม้​ผม​จะ​อยาก​พบ​ปะ​กับ​พวก​เขา แต่​ผม​ก็​ยัง​ต้อง​ระมัดระวัง​เพราะ​คน​ผิว​ขาว​ใน​เขต​ที่​เรา​อาศัย​อยู่​มัก​จะ​เยาะเย้ย​และ​พูด​จา​สบประมาท​พวก​เรา.

ไม่​นาน​หลัง​จาก​คุณ​ยาย​เสีย​ชีวิต คุณ​พ่อ​คุณ​แม่​ของ​ผม​ก็​เริ่ม​ติด​เหล้า ทำ​ให้​ตลอด​ช่วง​เวลา​นั้น​เป็น​ช่วง​ที่​ผม​เศร้า​ใจ​ที่​สุด. ตอน​ที่​ผม​อายุ​แปด​ขวบ ชาว​มอร์มอน​สอง​คน​ก็​เริ่ม​มา​หา​เรา​ที่​บ้าน. พวก​เขา​ดู​ท่า​ทาง​เป็น​คน​ดี. คุณ​พ่อ​คุณ​แม่​ยอม​รับ​ข้อ​เสนอ​ของ​พวก​เขา​ที่​ให้​ส่ง​ผม​ไป​อยู่​กับ​อีก​ครอบครัว​หนึ่ง. ตาม​ที่​ผม​เข้าใจ โครงการ​นี้​ก็​คือ​การ​นำ​เด็ก​พื้นเมือง​ไป​อบรม​เลี้ยง​ดู​ใหม่​โดย​ให้​เด็ก​ไป​อาศัย​อยู่​กับ​คน​ผิว​ขาว. เห็น​ได้​ชัด​ว่า เนื่อง​จาก​สภาพ​แวด​ล้อม​ของ​พวก​ท่าน คุณ​พ่อ​คุณ​แม่​จึง​คิด​ว่า​การ​ที่​ผม​ไป​อยู่​กับ​อีก​ครอบครัว​หนึ่ง​นั้น​น่า​จะ​เป็น​สิ่ง​ที่​ดี​ที่​สุด​สำหรับ​ผม. ผม​ตกใจ​และ​ผิด​หวัง​มาก เพราะ​ผม​เคย​ได้​ยิน​คุณ​พ่อ​คุณ​แม่​พูด​ว่า​คน​ขาว​เป็น​คน​ที่​ไว้​ใจ​ไม่​ได้. ผม​ไม่​อยาก​ไป และ​ผม​ก็​พยายาม​บ่าย​เบี่ยง. ใน​ที่​สุด​ผม​ก็​ยอม เมื่อ​คุณ​พ่อ​คุณ​แม่​ยืน​ยัน​ว่า​พี่​ชาย​ของ​ผม​จะ​ไป​ด้วย.

แต่​เมื่อ​เรา​ไป​ถึง​เมือง​แวนคูเวอร์ มณฑล​บริติช​โคลัมเบีย ผม​กับ​พี่​ชาย​ก็​ถูก​จับ​แยก แล้ว​เรา​สอง​คน​ก็​ถูก​พา​ไป​อยู่​ใน​ที่​ที่​ห่าง​ไกล​กัน​ประมาณ 100 กิโลเมตร! ผม​เศร้า​เสียใจ​เหลือ​เกิน. แม้​ว่า​เจ้าของ​บ้าน​ที่​ผม​ไป​อาศัย​อยู่​ด้วย​จะ​เป็น​คน​ดี แต่​นั่น​ก็​เป็น​ประสบการณ์​ที่​เจ็บ​ปวด และ​ผม​รู้สึก​กลัว​มาก. ผม​กลับ​บ้าน​หลัง​จาก​อยู่​ที่​นั่น​ประมาณ​สิบ​เดือน.

กลับ​มา​อยู่​กับ​คุณ​พ่อ​คุณ​แม่

แม้​ว่า​สภาพการณ์​ใน​บ้าน​ไม่​ได้​เปลี่ยน​แปลง​ไป​สัก​เท่า​ไร แต่​ผม​ก็​ดีใจ​ที่​ได้​กลับ​บ้าน. คุณ​พ่อ​คุณ​แม่​เลิก​ดื่ม​เหล้า​ตอน​ที่​ผม​อายุ 12 ขวบ. นั่น​ทำ​ให้​ผม​โล่ง​ใจ​ขึ้น แต่​ตัว​ผม​เอง​กลับ​ไป​ดำเนิน​ชีวิต​แบบ​ที่​ไม่​ดี เนื่อง​จาก​ตอน​นั้น​ผม​เริ่ม​ลอง​เสพ​ยา​และ​ดื่ม​เหล้า. คุณ​พ่อ​คุณ​แม่​สนับสนุน​ผม​ให้​ลอง​ทำ​กิจกรรม​อย่าง​อื่น​แทน รวม​ทั้ง​การ​ขี่​วัว​หรือ​ขี่​ม้า​พยศ ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​ผม​ชอบ​จริง ๆ. การ​ขี่​วัว​หรือ​ขี่​ม้า​พยศ​ต้อง​อาศัย​ความ​กล้า​หาญ. ผม​ฝึก​ที่​จะ​ขี่​วัว​ป่า​จอม​พยศ​ให้​ได้​อย่าง​น้อย​แปด​วินาที​โดย​ที่​ไม่​ถูก​เหวี่ยง​กระเด็น​ลง​มา ขณะ​ที่​ผม​ใช้​มือ​เพียง​ข้าง​เดียว​จับ​เชือก​ที่​ผูก​รอบ​ท้อง​วัว​ไว้.

เมื่อ​ผม​เป็น​วัยรุ่น ผู้​เฒ่า​ผู้​แก่​ชาว​อินเดียน​แดง​ได้​สอน​ผม​ให้​รู้​จัก​ศาสนา​ของ​ชน​พื้นเมือง. ผม​สนใจ​เรื่อง​นั้น​จริง ๆ เนื่อง​จาก​ผม​แทบ​จะ​ไม่​มี​ความ​นับถือ​ต่อ​ศาสนา​ต่าง ๆ ที่​เรียก​กัน​ว่า​ศาสนา​ของ​คน​ผิว​ขาว. ผม​หา​เหตุ​ผล​ว่า ธรรมเนียม​ของ​ชน​เผ่า​แบล็ก​ฟุต​ดู​เหมือน​จะ​ส่ง​เสริม​เรื่อง​ความ​กรุณา​และ​ความ​ยุติธรรม​ซึ่ง​ไม่​มี​เลย​ใน​หลาย ๆ ศาสนา​ที่​เป็น “คริสเตียน.” ผม​รู้สึก​สบาย​ใจ​เมื่อ​อยู่​ท่ามกลาง​ชน​พื้นเมือง เพลิดเพลิน​กับ​เรื่อง​ตลก​ขบ​ขัน​และ​ความ​ใกล้​ชิด​สนิทสนม​ที่​มี​ให้​กัน​ระหว่าง​คน​ใน​ครอบครัว​และ​เพื่อน ๆ.

ประมาณ​ช่วง​นี้​เอง ผม​ยัง​ได้​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​ความ​อยุติธรรม​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​ชน​พื้นเมือง​มา​เป็น​เวลา​หลาย​ศตวรรษ. มี​คน​บอก​ผม​ว่า​คน​ผิว​ขาว​เคย​แพร่​เชื้อ​โรค​ให้​พวก​เรา​และ​ทำลาย​ปัจจัย​สำคัญ​ที่​สุด​อย่าง​หนึ่ง​ใน​การ​ดำรง​ชีพ​ของ​เรา ซึ่ง​ก็​คือ​ควาย​ไบซัน. ที่​จริง มี​การ​รายงาน​ว่า พัน​เอก อาร์. ไอ. ดอดจ์ แห่ง​กองทัพ​สหรัฐ เคย​พูด​ว่า “จง​ฆ่า​ควาย​ทุก​ตัว​ที่​คุณ​สามารถ​ฆ่า​มัน​ได้. ถ้า​ควาย​ตาย​หนึ่ง​ตัว​ก็​เท่า​กับ​อินเดียน​แดง​ตาย​หนึ่ง​คน.” ผม​ได้​ทราบ​ว่า ทัศนะ​ดัง​กล่าว​นี้​ทำ​ให้​ชน​เผ่า​แบล็ก​ฟุต​หมด​อาลัย​ตาย​อยาก​และ​นำ​พวก​เขา​ไป​สู่​ความ​สิ้น​หวัง.

นอก​จาก​นี้ ผู้​นำ​บาง​คน​ใน​รัฐบาล​รวม​ทั้ง​พันธมิตร​ทาง​ศาสนา​ของ​พวก​เขา​ยัง​พยายาม​อย่าง​ไม่​ลด​ละ​ที่​จะ​กลืน​และ​เปลี่ยน​ชน​พื้นเมือง​ที่​พวก​เขา​มอง​ว่า​เป็น​คน​ป่า​เถื่อน​ให้​เป็น​คน​ที่​มี​อารยธรรม. พวก​เขา​เชื่อ​ว่า จำเป็น​ต้อง​เปลี่ยน​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ชน​พื้นเมือง รวม​ทั้ง​วัฒนธรรม, ความ​เชื่อ, ความ​ประพฤติ, และ​ภาษา เพื่อ​พวก​เขา​จะ​ปรับ​ตัว​ให้​เข้า​กับ​คน​ผิว​ขาว​ได้. ใน​แคนาดา เด็ก​ชาว​พื้นเมือง​บาง​คน​ถูก​ทำ​ร้าย​ใน​โรง​เรียน​สอน​ศาสนา​ที่​เป็น​โรง​เรียน​ประจำ. ส่วน​เด็ก​คน​อื่น ๆ กลาย​เป็น​ผู้​ติด​สาร​เสพ​ติด, ใช้​ความ​รุนแรง, และ​ฆ่า​ตัว​ตาย ซึ่ง​เป็น​ปัญหา​ที่​ยืดเยื้อ​อยู่​ใน​เขต​คุ้มครอง​ตราบ​จน​ทุก​วัน​นี้.

เพื่อ​หนี​ปัญหา​เหล่า​นี้ ชน​พื้นเมือง​บาง​คน​จึง​ตัดสิน​ใจ​ละ​ทิ้ง​วัฒนธรรม​ของ​ชน​เผ่า​แบล็ก​ฟุต. พวก​เขา​เลือก​ที่​จะ​พูด​ภาษา​อังกฤษ​กับ​ลูก ๆ แทน​ที่​จะ​ใช้​ภาษา​แบล็ก​ฟุต และ​พวก​เขา​ก็​พยายาม​ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​อย่าง​คน​ผิว​ขาว​ใน​บาง​แง่​มุม. แทน​ที่​จะ​ได้​รับ​การ​ยอม​รับ หลาย​คน​กลับ​ถูก​ดูหมิ่น​เหยียด​หยาม ไม่​เพียง​แต่​จาก​ประชาชน​บาง​คน​ที่​เป็น​คน​ผิว​ขาว พวก​เขา​ยัง​ถูก​ชน​พื้นเมือง​คน​อื่น ๆ ดูถูก​ด้วย ซึ่ง​คน​เหล่า​นั้น​ได้​เหน็บ​แนม​พวก​เขา​ว่า “อินเดียน​แดง​แอปเปิล” คือ​ตัว​เป็น​อินเดียน​แดง​แต่​ใจ​เป็น​คน​ขาว.

น่า​เศร้า​จริง ๆ ที่​ได้​เห็น​ชน​พื้นเมือง​ประสบ​ความ​ทุกข์​ยาก​นานัปการ. ผม​อยาก​เห็น​ประชาชน​ที่​อยู่​ใน​เขต​คุ้มครอง​ของ​เรา​และ​ที่​อื่น ๆ ทั่ว​ทั้ง​แคนาดา​และ​สหรัฐ​มี​สภาพการณ์​ที่​ดี​กว่า​นี้.

ผม​เฝ้า​คอย​คำ​ตอบ

ตอน​ที่​ผม​เป็น​วัยรุ่น ผม​คิด​ว่า​ผม​คง​จะ​ไม่​มี​ทาง​เป็น​ที่​ยอม​รับ​ของ​ใคร ๆ. ความ​รู้สึก​ด้อย​ค่า​ของ​ผม​มัก​จะ​กลาย​เป็น​ความ​เจ็บ​แค้น. ผม​ถึง​กับ​เกิด​ความ​ชิง​ชัง​คน​ผิว​ขาว. อย่าง​ไร​ก็​ตาม คุณ​พ่อ​คุณ​แม่​และ​ป้า​เตือน​ผม​ไม่​ให้​บ่ม​เพาะ​ความ​รู้สึก​ใน​แง่​ลบ​ทั้ง​ความ​เกลียด​ชัง​และ​ความ​อาฆาต​แค้น แทน​ที่​จะ​ทำ​เช่น​นั้น ท่าน​สนับสนุน​ผม​ให้​แสดง​ความ​รัก​และ​รู้​จัก​ให้​อภัย อีก​ทั้ง​ไม่​ต้อง​ไป​ใส่​ใจ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​มี​อคติ​ต่อ​ผู้​อื่น. ใน​ภาย​หลัง​ผม​ได้​เรียน​รู้​ว่า​คำ​แนะ​นำ​นี้​สอดคล้อง​กับ​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล. นอก​จาก​นี้ ผม​ยัง​ต้องการ​เหลือ​เกิน​ที่​จะ​ค้น​หา​คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​ถาม​หลาย​ข้อ​ที่​รบกวน​ใจ​ผม​มา​ตั้ง​แต่​วัย​เด็ก. ผม​ยัง​เริ่ม​สงสัย​ด้วย​ว่า​เรา​เกิด​มา​ทำไม​และ​เหตุ​ใด​ความ​อยุติธรรม​จึง​มี​อยู่​เสมอ​มา. การ​มี​ชีวิต​อยู่​เพียง​ช่วง​เวลา​สั้น ๆ แล้ว​ก็​ตาย​ไป​เป็น​สิ่ง​ที่​ไม่​มี​เหตุ​ผล​สำหรับ​ผม และ​นั่น​ทำ​ให้​ผม​สับสน.

เมื่อ​ใด​ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​มา​เยี่ยม​ที่​บ้าน คน​ใน​บ้าน​จะ​บอก​ให้​ผม​ไป​เปิด​ประตู. ผม​แสดง​ความ​นับถือ​พวก​เขา​เสมอ​เพราะ​พวก​เขา​ดู​เหมือน​ไม่​มี​อคติ. แม้​ผม​จะ​รู้สึก​ว่า​ยาก​ที่​จะ​ตั้ง​คำ​ถาม​ใน​แบบ​ที่​เหมาะ​สม แต่​เรา​ก็​มี​การ​สนทนา​ที่​น่า​สนใจ​เสมอ. ผม​นึก​ถึง​การ​เยี่ยม​ครั้ง​หนึ่ง​ของ​จอห์น บรูว์สเตอร์ และ​แฮร์รี คัลลิฮู พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​หนึ่ง​ที่​เป็น​ชน​เผ่า​แบล็ก​ฟุต. เรา​คุย​กัน​ยืด​ยาว​มาก​ขณะ​ที่​เรา​เดิน​ตัด​ข้าม​ทุ่ง​หญ้า​แพรรี. ผม​ได้​รับ​หนังสือ​เล่ม​หนึ่ง​แล้ว​ก็​อ่าน​ไป​ได้​ประมาณ​ครึ่ง​เล่ม​ก่อน​ที่​จะ​ทำ​หนังสือ​หาย​ไป.

ผม​กลาย​เป็น​นัก​ขี่​วัว​และ​ขี่​ม้า​พยศ

ผม​ไป​หา​พวก​ผู้​เฒ่า​ผู้​แก่​ที่​อยู่​ใน​เขต​คุ้มครอง​ของ​ผม​เพื่อ​ขอ​คำ​แนะ​นำ. ขณะ​ที่​ผม​รู้สึก​หยั่ง​รู้​ค่า​คำ​แนะ​นำ​ที่​สุขุม​รอบคอบ​ของ​พวก​เขา แต่​ผม​ก็​ไม่​เคย​ได้​รับ​คำ​ตอบ​ที่​จุ​ใจ​สำหรับ​คำ​ถาม​ใน​เรื่อง​ที่​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​ซึ่ง​ยัง​คง​มี​อยู่​ใน​ใจ​ผม. ผม​ออก​จาก​บ้าน​ตอน​อายุ 16 ปี แล้ว​ก็​มัว​แต่​หมกมุ่น​กับ​เรื่อง​การ​ขี่​วัว​และ​ขี่​ม้า​พยศ. งาน​เลี้ยง​สังสรรค์​ที่​ผม​ไป​ร่วม​หลัง​การ​แข่งขัน​ดัง​กล่าว​มัก​จะ​เป็น​แบบ​ที่​ดื่ม​กัน​จน​เมา​มาย​และ​มี​การ​ใช้​ยา​เสพ​ติด. สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​รบกวน​ใจ​ผม เพราะ​ผม​รู้​ว่า​ความ​ประพฤติ​เช่น​นั้น​ผิด​และ​รู้สึก​ว่า​พระเจ้า​ไม่​เห็น​ชอบ​กับ​รูป​แบบ​ชีวิต​ของ​ผม. ผม​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ผู้​สร้าง​บ่อย ๆ เพื่อ​ขอ​พระองค์​ช่วย​ผม​ให้​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​และ​เพื่อ​จะ​พบ​คำ​ตอบ​ที่​ยัง​รบกวน​ใจ​ผม​อยู่.

ใน​ปี 1978 ขณะ​ที่​ผม​อยู่​ใน​เมือง​คาลการี ผม​ได้​พบ​หญิง​สาว​คน​หนึ่ง​ที่​เป็น​ชน​พื้นเมือง​ชื่อ​โรส. เธอ​เป็น​ลูก​ครึ่ง​เผ่า​แบล็ก​ฟุต​และ​เผ่า​ครี. เรา​สนใจ​เรื่อง​ที่​คล้าย ๆ กัน และ​ผม​ก็​สามารถ​พูด​คุย​กับ​เธอ​ได้​อย่าง​เปิด​เผย​และ​รู้สึก​สบาย​ใจ​เวลา​ที่​ได้​อยู่​กับ​เธอ. เรา​รัก​กัน​แล้ว​ก็​แต่งงาน​กัน​ใน​ปี 1979. ครอบครัว​ของ​เรา​เริ่ม​มี​สมาชิก​เพิ่ม​ขึ้น​เมื่อ​เรา​มี​ลูก​สาว​ชื่อ​คาร์มา และ​มี​ลูก​ชาย​ชื่อ​จาเรด. โรส​เป็น​ภรรยา​ที่​สนับสนุน​ผม​ด้วย​ความ​ภักดี และ​เป็น​แม่​ที่​ดี​ด้วย. วัน​หนึ่ง เมื่อ​ผม​และ​ครอบครัว​ไป​เยี่ยม​พี่​ชาย​ของ​ผม ผม​พบ​หนังสือ​ที่​มี​ชื่อ​ว่า​ท่าน​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ได้​ตลอด​ไป​ใน​อุทยาน​บน​แผ่นดิน​โลก. * สิ่ง​ที่​ผม​อ่าน​กระตุ้น​ผม​ให้​อยาก​รู้​มาก​ขึ้น​และ​ดู​เหมือน​เป็น​เรื่อง​ที่​มี​เหตุ​ผล​มาก. แต่​เมื่อ​ผม​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​เริ่ม​จะ​เข้าใจ​ข่าวสาร​ที่​อยู่​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล ผม​ก็​อ่าน​มา​ถึง​ส่วน​ของ​หนังสือ​เล่ม​นั้น​ที่​ถูก​ฉีก​ออก​ไป​หลาย​หน้า. ผม​กับ​โรส​พยายาม​หา​หน้า​ที่​หาย​ไป​นั้น​อย่าง​ไม่​ลด​ละ แต่​ก็​หา​ไม่​พบ. ถึง​กระนั้น ผม​ก็​ยัง​อธิษฐาน​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​ต่อ​ไป.

ไป​พบ​บาทหลวง

ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​ปี 1984 โรส​คลอด​ลูก​คน​ที่​สาม​ชื่อ​เคย์​ลา เธอ​เป็น​ลูก​สาว​ที่​หน้า​ตา​น่า​รัก. แต่​หลัง​จาก​นั้น​เพียง​สอง​เดือน เคย์​ลา​เสีย​ชีวิต​เพราะ​โรค​หัวใจ​ที่​เป็น​มา​แต่​กำเนิด. เรา​เศร้า​เสียใจ​เหลือ​เกิน และ​ผม​ก็​ไม่​รู้​ว่า​จะ​ปลอบโยน​โรส​ได้​อย่าง​ไร. เธอ​ชวน​ผม​ไป​หา​บาทหลวง​คาทอลิก​ที่​อยู่​ใน​เขต​คุ้มครอง​ของ​เรา​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​การ​ปลอบโยน​และ​เพื่อ​หา​คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​ถาม​ของ​เรา.

เรา​ถาม​เขา​ว่า เหตุ​ใด​ลูก​สาว​ตัว​น้อย ๆ ของ​เรา​จึง​ตาย และ​เธอ​ไป​ที่​ไหน​ล่ะ? เขา​บอก​เรา​ว่า พระเจ้า​ทรง​รับ​เคย์ลา​ไป เพราะ​พระองค์​ต้องการ​ทูตสวรรค์​อีก​องค์​หนึ่ง. ผม​คิด​ว่า ‘ทำไม​พระเจ้า​จึง​ต้อง​เอา​ลูก​สาว​ของ​เรา​ไป​เป็น​ทูตสวรรค์ ถ้า​พระองค์​เป็น​พระ​ผู้​สร้าง​ผู้​ทรง​ฤทธิ์​ใหญ่​ยิ่ง? ทารก​ที่​ช่วย​ตัว​เอง​ไม่​ได้​จะ​มี​ประโยชน์​อะไร​หรือ?’ บาทหลวง​คน​นั้น​ไม่​ได้​เปิด​คัมภีร์​ไบเบิล​เลย. เมื่อ​จาก​บาทหลวง​มา เรา​รู้สึก​หมด​กำลังใจ​ทั้ง​คู่.

การ​อธิษฐาน เป็น​วิธี​เกื้อ​หนุน​หลัก​ของ​เรา

เช้า​วัน​จันทร์​วัน​หนึ่ง​ใน​ช่วง​ปลาย​เดือน​พฤศจิกายน 1984 ผม​อธิษฐาน​อยู่​นาน​ที​เดียว โดย​ทูล​อ้อน​วอน​ให้​พระเจ้า​ช่วย​ผม​ให้​เป็น​คน​ดี​ขึ้น, ให้​ผม​เข้าใจ​เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น, และ​ให้​ผม​เข้าใจ​ว่า​จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​ชีวิต​คือ​อะไร. เช้า​วัน​นั้น​เอง ไดอานา เบล​เล​มี กับ​คาเรน สกอตต์ พยาน​พระ​ยะโฮวา​สอง​คน​มา​เคาะ​ประตู​บ้าน​ผม. พวก​เขา​ดู​จริง​ใจ​และ​กรุณา​มาก แถม​ยัง​กระตือรือร้น​ที่​จะ​บอก​ข่าวสาร​ของ​พวก​เขา. ผม​ฟัง​แล้ว​ก็​รับ​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​หนังสือ​ชื่อ​ว่า​การ​รอด​ชีวิต​สู่​แผ่นดิน​โลก​ใหม่  * (ภาษา​อังกฤษ) และ​ผม​ก็​ยินดี​ที่​จะ​ให้​ไดอานา​กลับ​มา​เยี่ยม​ผม​ปลาย​สัปดาห์​นั้น พร้อม​กับ​ดาร์ริล​สามี​ของ​เธอ.

พอ​พวก​เขา​คล้อย​หลัง​ไป​แล้ว​ผม​จึง​รู้สึก​ขึ้น​มา​ว่า นี่​คง​จะ​เป็น​คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​อธิษฐาน​ของ​ผม. ผม​ตื่นเต้น​มาก​จน​ได้​แต่​เดิน​กลับ​ไป​กลับ​มา​อยู่​ใน​บ้าน​อย่าง​ใจจดใจจ่อ เฝ้า​คอย​ให้​โรส​กลับ​มา​จาก​ที่​ทำ​งาน​เพื่อ​ผม​จะ​บอก​เธอ​ได้​ว่า​มี​อะไร​เกิด​ขึ้น. ผม​แปลก​ใจ​มาก​ที่​โรส​บอก​ว่า เธอ​เอง​ก็​เพิ่ง​อธิษฐาน​เมื่อ​คืน​ก่อน และ​เธอ​ทูล​ขอ​พระเจ้า​ให้​ช่วย​เธอ​ได้​พบ​ศาสนา​แท้. วัน​ศุกร์​นั้น เรา​ได้​เริ่ม​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ครั้ง​แรก. เรา​ได้​มา​รู้​ใน​ภาย​หลัง​ว่า วัน​ที่​คาเรน​กับ​ไดอานา​มา​เยี่ยม​เรา พวก​เธอ​หา​บ้าน​ที่​ตั้งใจ​มา​ประกาศ​ไม่​พบ. แต่​เมื่อ​เห็น​บ้าน​ของ​เรา พวก​เธอ​ก็​รู้สึก​เหมือน​ถูก​กระตุ้น​ให้​มา​แวะ​เยี่ยม.

ใน​ที่​สุด​ก็​ได้​คำ​ตอบ!

ครอบครัว​ของ​เรา​และ​เพื่อน ๆ รู้สึก​สงสัย และ​ตอน​แรก​ก็​แสดง​ความ​เย็นชา​ต่อ​เรา เมื่อ​เรา​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล. จาก​นั้น​พวก​เขา​กดดัน​เรา​โดย​บอก​ว่า เรา​กำลัง​ทำ​ให้​ชีวิต​ของ​เรา​สูญ​เปล่า​และ​ไม่​ได้​ใช้​พรสวรรค์​รวม​ทั้ง​ความ​สามารถ​ของ​เรา​อย่าง​เต็ม​ที่. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เรา​ตก​ลง​ใจ​แล้ว​ว่า​จะ​ไม่​หัน​หลัง​ให้​พระ​ยะโฮวา พระ​ผู้​สร้าง ซึ่ง​เป็น​เสมือน​เพื่อน​ใหม่​ที่​เรา​เพิ่ง​รู้​จัก. ว่า​กัน​ตาม​จริง​แล้ว เรา​ได้​พบ​อะไร​บาง​อย่าง​ที่​ล้ำ​ค่า​มาก นั่น​คือ​ความ​จริง​อัน​น่า​ทึ่ง​และ​ความ​ลับ​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. (มัดธาย 13:52) ทั้ง​ผม​และ​โรส​รับ​บัพติสมา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​เดือน​ธันวาคม 1985. เวลา​นี้​ญาติ ๆ ของ​เรา​นับถือ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​มาก เนื่อง​จาก​พวก​เขา​ได้​เห็น​การ​เปลี่ยน​แปลง​ใน​ทาง​ที่​ดี​ขึ้น​ใน​ชีวิต​ของ​เรา​ตั้ง​แต่​ที่​เรา​รับ​บัพติสมา.

ใช่ ผม​พบ​สิ่ง​ที่​ผม​แสวง​หา​แล้ว! คัมภีร์​ไบเบิล​ตอบ​คำ​ถาม​ที่​สำคัญ ๆ แบบ​ที่​เรียบ​ง่าย​และ​มี​เหตุ​มี​ผล. ผม​อิ่ม​ใจ​เมื่อ​ได้​เรียน​รู้​ว่า​จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​ชีวิต​คือ​อะไร, เหตุ​ใด​เรา​จึง​ตาย, และ​คำ​สัญญา​ของ​พระเจ้า​ที่​ว่า​เรา​จะ​ได้​พบ​กับ​เคย์ลา​ลูก​สาว​ของ​เรา​อีก​ครั้ง และ​จะ​ได้​เห็น​เธอ​เติบโต​ขึ้น​ใน​สภาพ​แวด​ล้อม​ที่​สมบูรณ์. (โยฮัน 5:28, 29; วิวรณ์ 21:4) ต่อ​มา เรา​ยัง​ได้​เรียน​รู้​ว่า เรา​ไม่​ควร​ใช้​ร่าง​กาย​ของ​เรา​อย่าง​ผิด ๆ, ไม่​ทำ​สิ่ง​ที่​แสดง​ว่า​เรา​ไม่​เห็น​คุณค่า​ของ​ชีวิต, หรือ​ยั่ว​ยุ​ให้​มี​การ​แข่งขัน​ชิง​ดี​กัน. (กาลาเทีย 5:26) นั่น​เป็น​การ​ตัดสิน​ใจ​ที่​ยาก แต่​ผม​ก็​ตัดสิน​ใจ​เลิก​ขี่​วัว​และ​ขี่​ม้า​พยศ​เพื่อ​ทำ​ให้​พระเจ้า​พอ​พระทัย.

ความ​รู้​ที่​ถูก​ต้อง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ปลด​ปล่อย​เรา​ให้​เป็น​อิสระ​จาก​การ​เชื่อ​โชค​ลาง ซึ่ง​ก่อ​ความ​ทุกข์​ให้​แก่​บรรดา​ชน​พื้นเมือง​ทั้ง​หลาย เช่น ความ​เชื่อ​ที่​ว่า​ถ้า​นก​ฮูก​บิน​มา​หรือ​ได้​ยิน​เสียง​สุนัข​หอน นั่น​แสดง​ว่า​อาจ​จะ​มี​ใคร​คน​หนึ่ง​ใน​ครอบครัว​เสีย​ชีวิต. เรา​ไม่​กลัว​อีก​ต่อ​ไป​ว่า พวก​วิญญาณ​ที่​มอง​ไม่​เห็น​ใน​สิ่ง​มี​ชีวิต​หรือ​สิ่ง​ที่​ไม่​มี​ชีวิต​จะ​มา​ทำ​ร้าย​เรา. (บทเพลง​สรรเสริญ 56:4; โยฮัน 8:32) เวลา​นี้​เรา​เห็น​คุณค่า​และ​นับถือ​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ของ​พระ​ยะโฮวา. ผม​มี​เพื่อน ๆ จาก​หลาย​เชื้อชาติ​ซึ่ง​ผม​เรียก​ว่า​พี่​น้อง และ​พวก​เขา​ยอม​รับ​เรา​เป็น​เพื่อน​ผู้​รับใช้​พระเจ้า​ที่​มี​ฐานะ​เท่า​เทียม​กับ​พวก​เขา. (กิจการ 10:34, 35) พวก​เขา​หลาย​คน​บากบั่น​พยายาม​อย่าง​มาก​ที่​จะ​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​วัฒนธรรม​และ​ความ​เชื่อ​ของ​ชน​พื้นเมือง รวม​ทั้ง​การ​พูด​ภาษา​แบล็ก​ฟุต​ด้วย เพื่อ​พวก​เขา​จะ​แบ่ง​ปัน​ข่าวสาร​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้​อย่าง​มี​ประสิทธิภาพ​ใน​วิธี​ที่​น่า​ดึงดูด​ใจ.

ครอบครัว​ของ​เรา​อาศัย​อยู่​ใน​เขต​คุ้มครอง​อินเดียน​แดง​เผ่า​บลัด ทาง​ใต้​ของ​มณฑล​แอลเบอร์ตา ซึ่ง​เรา​มี​ฟาร์ม​เล็ก ๆ เลี้ยง​ปศุสัตว์​อยู่​ที่​นั่น. เรา​ยัง​ชื่น​ชอบ​วัฒนธรรม​ของ​ชน​พื้นเมือง รวม​ทั้ง​อาหาร, ดนตรี, และ​การ​เต้น​รำ​แบบ​พื้น​บ้าน. เรา​ไม่​ได้​ไป​ร่วม​เต้น​รำ​แบบ​ที่​ชน​พื้นเมือง​มัก​จะ​เต้น​ด้วย​กัน​เป็น​กลุ่ม ๆ ซึ่ง​บาง​ที​เรียก​ว่า​พาววาว แต่​เรา​ก็​ชอบ​ดู​พวก​เขา​เต้น ถ้า​เป็น​แบบ​ที่​เหมาะ​สม. นอก​จาก​นี้ ผม​ยัง​พยายาม​สอน​ลูก ๆ เกี่ยว​กับ​มรดก​ทาง​วัฒนธรรม​ของ​พวก​เขา​และ​สอน​ภาษา​แบล็ก​ฟุต​ให้​ลูก ๆ บ้าง. ชน​พื้นเมือง​หลาย​คน​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ใน​เรื่อง​คุณลักษณะ​ที่​ดี​เยี่ยม เช่น ความ​กรุณา, ความ​ถ่อม​ใจ, และ​ความ​รัก​ที่​มี​ต่อ​ครอบครัว​และ​เพื่อน​ฝูง. พวก​เขา​ยัง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ดี​ใน​เรื่อง​การ​แสดง​น้ำใจ​เอื้อเฟื้อ​และ​การ​แสดง​ความ​นับถือ​ต่อ​ผู้​อื่น รวม​ถึง​คน​เหล่า​นั้น​ที่​มี​พื้นเพ​ต่าง​กัน. ผม​ยัง​รู้สึก​หยั่ง​รู้​ค่า​และ​ปลื้ม​ใจ​ใน​เรื่อง​เหล่า​นี้.

ความ​สุข​มาก​ที่​สุด​ของ​เรา​เกิด​จาก​การ​ใช้​เวลา​และ​ทรัพยากร​ที่​เรา​มี​เพื่อ​ช่วยเหลือ​ผู้​อื่น​ให้​ได้​มา​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา​และ​เรียน​ที่​จะ​รัก​พระองค์. จาเรด​ลูก​ชาย​ของ​เรา​เป็น​อาสา​สมัคร​ที่​ทำ​งาน​อยู่​ใน​สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใกล้​กับ​เมือง​โทรอนโต. ผม​มี​สิทธิ​พิเศษ​ที่​ได้​รับใช้​เป็น​ผู้​ปกครอง​คน​หนึ่ง​ใน​ประชาคม​ท้องถิ่น​ที่​ชื่อ​แมคเคลาด์ และ​ตัว​ผม, โรส, และ​คาร์มา เรา​ทุก​คน​เป็น​ไพโอเนียร์​ประจำ​คือ​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา. น่า​ยินดี​ที่​เรา​ได้​ประกาศ​โดย​ใช้​ภาษา​แบล็ก​ฟุต​ซึ่ง​เป็น​ภาษา​ถิ่น​ของ​เรา. การ​ที่​ได้​เห็น​คน​อื่น​ตอบรับ​ความ​จริง​ใน​เรื่อง​พระ​ผู้​สร้าง​และ​พระ​ประสงค์​ของ​พระองค์​นั้น​ทำ​ให้​รู้สึก​ปลื้ม​ใจ​เหลือ​เกิน.

คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ว่า “ถ้า​เจ้า​แสวง​หา​พระองค์ ๆ จะ​ทรง​โปรด​ให้​เจ้า​ประสบ​พระองค์.” (1 โครนิกา 28:9) ผม​รู้สึก​ขอบคุณ​จริง ๆ ที่​พระองค์​ทรง​ทำ​ตาม​คำ​สัญญา​ของ​พระองค์ โดย​ที่​ทรง​ช่วย​ผม​รวม​ทั้ง​ครอบครัว​ของ​ผม​ให้​ได้​พบ​สิ่ง​ที่​เรา​แสวง​หา.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 22 หนังสือ​เล่ม​นี้​จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ปัจจุบัน​งด​พิมพ์​แล้ว.

^ วรรค 27 หนังสือ​เล่ม​นี้​จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ปัจจุบัน​งด​พิมพ์​แล้ว.

[ภาพ​หน้า 13]

‘ถ้า​มี​พระ​ผู้​สร้าง แล้ว​พระองค์​อยู่​ที่​ไหน? เหตุ​ใด​คน​เรา​จึง​ตาย?’

[ภาพ​หน้า 16]

‘ชน​พื้นเมือง​หลาย​คน​เป็น​ที่​รู้​จัก​ใน​เรื่อง​ของ​ความ​กรุณา​และ​ความ​ถ่อม​ใจ’

[ภาพ​หน้า 12]

คุณ​ยาย​สอน​ผม ให้​รู้​จัก​วัฒนธรรม​อัน​เก่า​แก่​ของ ชน​เผ่า แบล็ก​ฟุต

[ภาพ​หน้า 15]

ผม​หมกมุ่น​อยู่​แต่​กับ​การ​ขี่​วัว​และ​ขี่​ม้า​พยศ

[ภาพ​หน้า 15]

แผ่น​พับ​พิเศษ “คุณ​สามารถ​ไว้​วางใจ​พระ​ผู้​สร้าง​ได้” มี​ใน​ภาษา​แบล็ก​ฟุต​และ​ภาษา​อื่น ๆ

[ภาพ​หน้า 15]

เวลา​นี้​ผม​มี​ความ​สุข​กับ​การ​แบ่ง​ปัน​ความ​รู้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​แก่​คน​อื่น

[ภาพ​หน้า 15]

กับ​ครอบครัว​ของ​ผม​ใน​ปัจจุบัน