ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

คุณควรเป็นคนซื่อสัตย์ทุกเวลาไหม?

คุณควรเป็นคนซื่อสัตย์ทุกเวลาไหม?

คุณ​ควร​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์​ทุก​เวลา​ไหม?

ทุก​คน​ล้วน​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์​บาง​เวลา ส่วน​อีก​หลาย​คน​ก็​อาจ​ซื่อ​สัตย์​เกือบ​ตลอด​เวลา. แต่​มี​สัก​กี่​คน​ที่​คุณ​รู้​จัก​ที่​พยายาม​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์​ทุก​เวลา?

ทุก​วัน​นี้ ความ​ไม่​ซื่อ​สัตย์​มี​อยู่​แพร่​หลาย​แทบ​ทุก​แง่​มุม​ใน​ชีวิต. กระนั้น ทัศนะ​ของ​พระเจ้า​ใน​เรื่อง​ความ​ซื่อ​สัตย์​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ดี. ตัว​อย่าง​เช่น คน​ส่วน​ใหญ่​คุ้น​เคย​กับ​บัญญัติ​ข้อ​ที่​แปด​ใน​บัญญัติ​สิบ​ประการ​ที่​ว่า “อย่า​ลัก​ทรัพย์.” (เอ็กโซโด 20:15) อย่าง​ไร​ก็​ตาม คน​จำนวน​มาก​รู้สึก​ว่า​ใน​บาง​สถานการณ์​การ​ขโมย​หรือ​ความ​ไม่​ซื่อ​สัตย์​ใน​รูป​แบบ​อื่น​เป็น​เรื่อง​ที่​ยอม​รับ​ได้. ให้​เรา​มา​พิจารณา​สาม​กรณี​ที่​มัก​ใช้​เป็น​ข้อ​อ้าง​ว่า​การ​ขโมย​ไม่​ผิด.

การ​ขโมย​เพราะ​ยาก​จน​เป็น​ข้อ​อ้าง​ที่​ฟัง​ขึ้น​ไหม?

รัฐบุรุษ​ชาว​โรมัน​คน​หนึ่ง​กล่าว​ไว้​ว่า “ความ​ยาก​จน​เป็น​บ่อ​เกิด​อาชญากรรม.” คน​จน​อาจ​รู้สึก​ว่า​เขา​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​ขโมย. คน​ที่​รู้​เรื่อง​ของ​เขา​อาจ​เห็น​ด้วย. พระ​เยซู​มอง​เรื่อง​นี้​อย่าง​ไร? พระองค์​ปฏิบัติ​กับ​คน​ขัดสน​ด้วย​ความ​เมตตา​สงสาร​อย่าง​ยิ่ง. “พระองค์​ทรง​รู้สึก​สงสาร . . . พวก​เขา.” (มัดธาย 9:36) กระนั้น พระองค์​ไม่​เคย​เห็น​ชอบ​กับ​การ​ขโมย ไม่​ว่า​ใน​สภาพการณ์​ใด​ทั้ง​สิ้น. ถ้า​อย่าง​นั้น คน​จน​ควร​ทำ​อย่าง​ไร?

พระเจ้า​สงสาร​คน​ที่​พยายาม​จะ​เชื่อ​ฟัง​พระองค์​อย่าง​จริง​ใจ และ​พระองค์​จะ​อวย​พร​พวก​เขา​เมื่อ​พยายาม​หา​เลี้ยง​ชีพ. (บทเพลง​สรรเสริญ 37:25) คัมภีร์​ไบเบิล​สัญญา​ว่า “พระเจ้า​มิ​ได้​ทรง​ปล่อย​ให้​คน​ชอบธรรม​หิว​แต่​พระองค์​ทรง​ขัด​ขวาง​ความ​อยาก​ของ​คน​ชั่ว​ร้าย.” (สุภาษิต 10:3 ฉบับ R73) คน​ยาก​จน​จะ​ไว้​ใจ​คำ​สัญญา​นี้​ได้​ไหม? วิกตอรีน​เชื่อ​มั่น​ใน​คำ​สัญญา​นี้.

วิกตอรีน​เป็น​แม่​ม่าย​ที่​ต้อง​เลี้ยง​ลูก​ใน​วัย​เรียน​ห้า​คน ชีวิต​ของ​เธอ​จึง​ลำบาก. เธอ​อาศัย​อยู่​ใน​ประเทศ​ที่​กำลัง​พัฒนา​ซึ่ง​ได้​รับ​เงิน​ช่วยเหลือ​จาก​รัฐ​เพียง​เล็ก​น้อย. แต่​ละ​วัน​เธอ​ใช้​ชีวิต​ส่วน​ใหญ่​อยู่​นอก​บ้าน​ซึ่ง​มี​โอกาส​ที่​จะ​ขโมย​ได้​มาก​มาย. แต่​วิกตอรีน​ไม่​เคย​คิด​ที่​จะ​ขโมย​เลย. แทน​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น เธอ​พยายาม​หา​เลี้ยง​ชีพ​ด้วย​ความ​ซื่อ​สัตย์​โดย​การ​ขาย​ของ​ริม​ถนน. ทำไม​เธอ​จึง​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์​เสมอ?

“ประการ​แรก ฉัน​เชื่อ​ว่า​พระเจ้า​ทรง​ซื่อ​สัตย์ และ​พระองค์​ก็​จะ​ปฏิบัติ​กับ​ฉัน​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​ถ้า​ฉัน​เลียน​แบบ​พระองค์. ประการ​ที่​สอง ลูก ๆ จะ​เลียน​แบบ​ความ​ซื่อ​สัตย์​ของ​ฉัน​ถ้า​เขา​เห็น​ว่า​ฉัน​ซื่อ​สัตย์.”

เธอ​อยู่​ได้​อย่าง​ไร? “เรา​มี​อาหาร, เสื้อ​ผ้า, และ​ที่​อยู่​อาศัย. แต่​ก็​มี​บาง​ครั้ง​ที่​ฉัน​ต้อง​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​เพื่อน ๆ เช่น เมื่อ​มี​เหตุ​ต้อง​จ่าย​ค่า​รักษา​พยาบาล​โดย​ไม่​คาด​คิด. ฉัน​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​ตาม​ที่​จำเป็น​เสมอ. เพราะ​เหตุ​ใด? ก็​เพราะ​เพื่อน ๆ รู้​ว่า​ฉัน​ไม่​โกหก​เกี่ยว​กับ​สภาพการณ์​ของ​ตัว​เอง​และ​ฉัน​พยายาม​จะ​ไม่​รบกวน​พวก​เขา​มาก​กว่า​ที่​จำเป็น​จริง ๆ.

“ลูก ๆ เติบโต​ขึ้น​เป็น​เด็ก​ที่​ซื่อ​สัตย์. เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้​เพื่อน​บ้าน​คน​หนึ่ง​ได้​เห็น​ฉัน​วาง​เงิน​ไว้​บน​โต๊ะ จึง​ถาม​ฉัน​ว่า​ไม่​กลัว​ลูก ๆ เอา​ไป​หรือ. เมื่อ​ฉัน​บอก​ว่า​ลูก ๆ ของ​ฉัน​ไม่​มี​วัน​ทำ​อย่าง​นั้น เธอ​ไม่​เชื่อ. เธอ​จึง​ตัดสิน​ใจ​ที่​จะ​ทดสอบ​พวก​เด็ก ๆ โดย​ที่​ฉัน​ไม่​รู้. เธอ​แอบ​วาง​เงิน 100 ฟรังก์​สอง​เหรียญ​ไว้​ใน​บ้าน​ของ​เรา​ใน​ที่​ที่​เด็ก ๆ จะ​เห็น​ได้​ง่าย. เมื่อ​เธอ​กลับ​มา​ใน​วัน​รุ่ง​ขึ้น เธอ​ก็​แปลก​ใจ​ที่​เห็น​ว่า​เงิน​ยัง​อยู่​ที่​เดิม. การ​มี​ลูก​ที่​ซื่อ​สัตย์​ทำ​ให้​มี​ความ​สุข​ยิ่ง​กว่า​การ​มี​วัตถุ​เงิน​ทอง​มาก ๆ.”

“ใคร ๆ เขา​ก็​ทำ​กัน”

การ​ขโมย​ใน​ที่​ทำ​งาน​มี​อยู่​ทั่ว​ไป. หลาย​คน​จึง​รู้สึก​ว่า “ใคร ๆ เขา​ก็​ทำ​กัน แล้ว​ทำไม​ฉัน​จะ​ทำ​ไม่​ได้​ล่ะ?” แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “อย่า​ทำ​ชั่ว​ตาม​อย่าง​คน​จำนวน​มาก​ที่​เขา​ทำ​กัน​นั้น​เลย.” (เอ็กโซโด 23:2) วิกตัวร์​ได้​เชื่อ​ฟัง​คำ​สั่ง​นี้. ผล​เป็น​อย่าง​ไร?

ตอน​อายุ 19 ปี วิกตัวร์​ได้​งาน​ทำ​ใน​โรง​งาน​ผลิต​น้ำมัน​ปาล์ม. ไม่​ช้า​เธอ​สังเกต​เห็น​ว่า​คน​งาน​หญิง 40 คน​แอบ​ขโมย​เมล็ด​ใน​ปาล์ม​ออก​จาก​โรง​งาน​โดย​ใส่​ไว้​ใน​ตะกร้า​ของ​พวก​เธอ. ตอน​ปลาย​สัปดาห์ พวก​เธอ​จะ​นำ​เมล็ด​ใน​ปาล์ม​ไป​ขาย​และ​ได้​เงิน​มาก​เท่า​กับ​ค่า​แรง​สาม​ถึง​สี่​วัน. วิกตัวร์​เล่า​ว่า “ทุก​คน ทำ​อย่าง​นั้น. พวก​เธอ​ชวน​ฉัน​ทำ​ด้วย แต่​ฉัน​ปฏิเสธ​และ​บอก​ว่า​ความ​ซื่อ​สัตย์​เป็น​วิถี​ชีวิต​ของ​ฉัน. พวก​เธอ​เยาะเย้ย​ฉัน​และ​บอก​ว่า​ฉัน​ปล่อย​ให้​โอกาส​ดี ๆ หลุด​มือ​ไป.

“วัน​หนึ่ง​ขณะ​ที่​เรา​กำลัง​เดิน​ออก​จาก​โรง​งาน จู่ ๆ ผู้​จัด​การ​ก็​เข้า​มา. เขา​ค้น​ตะกร้า​ของ​ทุก​คน​และ​พบ​ว่า​ตะกร้า​ทุก​ใบ​มี​เมล็ด​ใน​ปาล์ม​ยก​เว้น​ตะกร้า​ของ​ฉัน. ทุก​คน​ที่​ถูก​จับ​ได้​ถูก​ไล่​ออก​ทันที​หรือ​ไม่​ก็​ต้อง​ทำ​งาน​สอง​สัปดาห์​โดย​ไม่​ได้​ค่า​แรง. ระหว่าง​สอง​สัปดาห์​นั้น พวก​เธอ​ก็​ได้​เห็น​ว่า​ฉัน​ไม่​ได้​พลาด​โอกาส​ดี ๆ อย่าง​ที่​พวก​เธอ​คิด.”

“ใคร​เจอ​คน​นั้น​ก็​ได้”

คุณ​รู้สึก​อย่าง​ไร​ถ้า​คุณ​พบ​ของ​มี​ค่า​บาง​อย่าง​ที่​มี​คน​ทำ​ตก​ไว้? สำหรับ​คน​ส่วน​ใหญ่ เขา​คิด​ทันที​เลย​ว่า​ตอน​นี้​ของ​นั้น​เป็น​ของ​เขา​แล้ว เขา​จึง​ไม่​คิด​จะ​คืน​ให้​กับ​เจ้าของ. พวก​เขา​ยึด​หลัก​ที่​ว่า “ใคร​เจอ​คน​นั้น​ก็​ได้.” บาง​คน​อาจ​รู้สึก​ว่า​เขา​ไม่​ได้​ทำ​ให้​ใคร​เดือดร้อน. ที่​จริง พวก​เขา​หา​เหตุ​ผล​ว่า​เจ้าของ​คง​ต้อง​คิด​ว่า​มัน​หาย​ไป​แล้ว​แน่ ๆ. บาง​คน​พูด​ว่า​ไม่​ใช่​ความ​รับผิดชอบ​ของ​เขา​ที่​จะ​ตาม​หา​เจ้าของ ซึ่ง​อาจ​เป็น​งาน​ที่​ต้อง​ใช้​ความ​พยายาม​มาก.

พระเจ้า​มอง​เรื่อง​นี้​อย่าง​ไร? พระ​บัญญัติ 22:1-3 แสดง​ให้​เห็น​ว่า​คน​ที่​พบ​ของ​ของ​คน​อื่น​จะ​ต้อง​ไม่​เก็บ​ของ​ที่​เขา​พบ​เอา​ไว้​เอง แต่​จะ​เก็บ​ไว้ “จน​พี่​น้อง [เจ้าของ] มา​ตาม​แล้ว จง​คืน​ให้​แก่​เขา.” ถ้า​คน​ที่​พบ​ไม่​ได้​บอก​ให้​คน​อื่น​รู้ เขา​อาจ​มี​ความ​ผิด​ฐาน​ขโมย. (เอ็กโซโด 22:9) หลักการ​นี้​ใช้​ได้​กับ​สมัย​นี้​ไหม? คริสติน​เชื่อ​เช่น​นั้น.

คริสติน​เป็น​ครู​ใหญ่​ของ​โรง​เรียน​เอกชน​แห่ง​หนึ่ง. วัน​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​วัน​พุธ เธอ​ได้​รับ​เงิน​เดือน​เป็น​เงิน​สด. เธอ​พับ​ธนบัตร​รวม​กัน​เป็น​ปึก​แล้ว​ซุก​ไว้​ใน​กระเป๋า​อย่าง​ที่​ชาว​แอฟริกา​ตะวัน​ตก​ทำ​กัน. จาก​นั้น​เธอ​ก็​เรียก​มอเตอร์ไซค์​รับจ้าง และ​รีบ​ไป​ประชุม. เมื่อ​ไป​ถึง​เธอ​ก็​ควาน​หา​เศษ​เหรียญ​ใน​กระเป๋า​เพื่อ​จ่าย​ค่า​รถ. เงิน​ทั้ง​ปึก​ก็​หล่น​ที่​พื้น​โดย​เธอ​ไม่​ทัน​สังเกต​เพราะ​ตอน​นั้น​มืด.

ไม่​กี่​นาที​ต่อ​มา เบลซ วัย 19 ปี​ซึ่ง​ไม่​ใช่​คน​ท้องถิ่น​นั้น​เดิน​ผ่าน​มา. เขา​นัด​กับ​เพื่อน​คน​หนึ่ง​ที่​การ​ประชุม​แห่ง​เดียว​กับ​ที่​คริสติน​ไป​ร่วม. เขา​เห็น​เงิน​ปึก​นั้น​และ​เก็บ​มัน​ไว้​ใน​กระเป๋า​เสื้อ. เมื่อ​เลิก​ประชุม​เขา​บอก​เพื่อน​ว่า​เขา​ได้​พบ​ของ​บาง​อย่าง​ที่​ข้าง​นอก​และ​ถ้า​ใคร​ทำ​อะไร​หาย​ก็​ให้​โทรศัพท์​หา​เขา​และ​บอก​ว่า​สิ่ง​ที่​หาย​ไป​เป็น​อะไร.

เมื่อ​คริสติน​กลับ​ถึง​บ้าน​ค่ำ​วัน​นั้น เธอ​ตกใจ​มาก​เมื่อ​รู้​ว่า​เงิน​เดือน​ทั้ง​เดือน​หาย​ไป. หลัง​จาก​นั้น​หนึ่ง​สัปดาห์​เธอ​เล่า​ให้​โจ​ซา​ฟีน​เพื่อน​ของ​เธอ​ฟัง​ว่า​เธอ​ทำ​เงิน​หาย เพื่อน​ก็​บอก​เธอ​ว่า​คน​หนึ่ง​ที่​มา​ประชุม​นั้น​เก็บ​ของ​อย่าง​หนึ่ง​ได้. คริสติน​จึง​โทรศัพท์​หา​เบลซ​และ​บอก​จำนวน​เงิน​ที่​เธอ​ทำ​หาย. เธอ​ดีใจ​มาก​เมื่อ​เบลซ​คืน​เงิน​นั้น​ให้. แล้ว​เบลซ​ล่ะ? เขา​ได้​เก็บ​เงิน​นั้น​ไว้​ตลอด​สัปดาห์ แต่​เขา​บอก​ว่า “การ​คืน​เงิน​ให้​กับ​เจ้าของ​ทำ​ให้​ผม​มี​ความ​ยินดี​มาก​กว่า​ที่​จะ​เก็บ​เงิน​นั้น​ไว้.”

เหตุ​ผล​ที่​พวก​เขา​พยายาม​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์​ตลอด​เวลา

วิกตอรีน, วิกตัวร์, และ​เบลซ อาศัย​อยู่​คน​ละ​ที่​และ​ไม่​รู้​จัก​กัน. แต่​พวก​เขา​มี​อย่าง​หนึ่ง​ที่​เหมือน​กัน. พวก​เขา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ซึ่ง​สนับสนุน​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เกี่ยว​กับ​ความ​ซื่อ​สัตย์. พวก​เขา​คอย​เวลา​ที่​คำ​สัญญา​ของ​พระเจ้า​เกี่ยว​กับ​โลก​ใหม่​สำเร็จ​เป็น​จริง. “มี​ฟ้า​สวรรค์​ใหม่​และ​แผ่นดิน​โลก​ใหม่​ที่​เรา​คอย​ท่า​อยู่​ตาม​คำ​สัญญา​ของ​พระองค์ ซึ่ง​ที่​นั่น​จะ​มี​ความ​ชอบธรรม​อยู่​จริง.” ทุก​คน​ที่​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​เวลา​นั้น​จะ​เป็น​คน​ชอบธรรม​และ​ซื่อ​สัตย์.—2 เปโตร 3:13

ตราบ​ใด​ที่​พระเจ้า​ยัง​ไม่​เปลี่ยน​แปลง​สิ่ง​ต่าง ๆ วิกตอรีน​ไม่​ได้​หวัง​ว่า​สภาพ​การ​เงิน​ของ​เธอ​จะ​ดี​ขึ้น​ถึง​ขั้น​ร่ำรวย. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เธอ​ร่ำรวย​ด้าน​ศีลธรรม​ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​เงิน​ไม่​สามารถ​หา​ซื้อ​ได้. ลูก ๆ ของ​เธอ​เป็น​เด็ก​ที่​ซื่อ​สัตย์​และ​มี​มารยาท​ดี. ทุก​วัน​อาทิตย์ พวก​เขา​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​พูด​คุย​กับ​เพื่อน​บ้าน​เกี่ยว​กับ​คุณ​ความ​ดี​ของ​พระเจ้า​และ​บอก​ให้​คน​อื่น​รู้​ว่า​พระองค์​จะ​สนอง​ความ​จำเป็น​ทุก​อย่าง​แก่ “คน​ที่​ทูล​พระองค์​ด้วย​ใจ​สัตย์​ซื่อ” และ​จะ​บำรุง​รักษา “คน​ทั้ง​หลาย​ที่​รัก​พระองค์.”—บทเพลง​สรรเสริญ 145:7, 18, 20

ต่อ​มา วิกตัวร์​ก็​ออก​จาก​งาน​ที่​โรง​งาน​ผลิต​น้ำมัน​ปาล์ม. เธอ​หัน​มา​ขาย​การ์รี (มัน​สำปะหลัง​บด​หยาบ) ที่​ตลาด. ความ​ซื่อ​สัตย์​ของ​เธอ​ทำ​ให้​เธอ​มี​ลูก​ค้า​มาก. ที่​จริง หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน​เธอ​ก็​สามารถ​ลด​เวลา​ค้า​ขาย​ที่​ตลาด​ลง​และ​ใช้​เวลา​มาก​ขึ้น​เพื่อ​บอก​คน​อื่น​เกี่ยว​กับ​ความ​หวัง​ที่​จะ​มี​ชีวิต​ใน​โลก​ที่​ปราศจาก​ความ​ไม่​ซื่อ​สัตย์. ต่อ​มา​เธอ​แต่งงาน และ​ปัจจุบัน​เธอ​กับ​สามี​เป็น​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา.

คริสติน​ทำ​เงิน​หล่น​ที่​หน้า​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. เบลซ​รู้​จัก​เพียง​ไม่​กี่​คน​ที่​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ใน​วัน​นั้น แต่​เขา​รู้​ว่า​ทุก​คน​เป็น​พี่​น้อง​คริสเตียน​ซึ่ง​พยายาม​จะ​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์​ตลอด​เวลา.

มี​สัก​กี่​คน​ที่​คุณ​รู้​จัก​ที่​พยายาม​อย่าง​จริง​ใจ​เพื่อ​จะ​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์​ตลอด​เวลา? ขอ​ให้​นึก​ภาพ​ตัว​คุณ​อยู่​กับ​คน​ที่​ซื่อ​สัตย์ 50, 100, หรือ 200 คน. นั่น​เป็น​สิ่ง​ที่​น่า​ยินดี​ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​ประสบ ณ หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​ของ​พวก​เขา. ขอ​เชิญ​คุณ​ไป​ที่​นั่น​และ​ทำ​ความ​รู้​จัก​กับ​คน​เหล่า​นั้น.

[คำ​โปรย​หน้า 12]

“การ​มี​ลูก​ที่​ซื่อ​สัตย์​ทำ​ให้​มี​ความ​สุข​ยิ่ง​กว่า​การ​มี​วัตถุ​เงิน​ทอง​มาก ๆ.”—วิกตอรีน

[กรอบ​หน้า 14]

สุภาษิต 6:30 ใช้​เป็น​ข้อ​อ้าง​ที่​จะ​ขโมย​ได้​ไหม?

สุภาษิต 6:30 (ฉบับ​แปล​คิงเจมส์) กล่าว​ว่า “ถ้า​ขโมย​เข้า​ลัก​เพื่อ​บรรเทา​ความ​อยาก​เมื่อ​เขา​หิว คน​ไม่​ดูหมิ่น​ขโมย​นั้น​มิ​ใช่​หรือ.” คำ​กล่าว​นี้​ใช้​เป็น​ข้อ​อ้าง​ที่​จะ​ขโมย​ได้​ไหม? ไม่​เลย. ท้อง​เรื่อง​แสดง​ว่า​พระเจ้า​ยัง​คง​ถือ​ว่า​ขโมย​นั้น​ต้อง​รับผิดชอบ​สิ่ง​ที่​เขา​ทำ. ข้อ​ถัด​ไป​บอก​ว่า “แต่​ถ้า​จับ​เขา​ได้ เขา​ต้อง​ชำระ​คืน​เจ็ด​เท่า เขา​จะ​ต้อง​ให้​สิ่ง​ของ​ทั้ง​สิ้น​ใน​บ้าน​ของ​เขา.” (สุภาษิต 6:31, ฉบับ​แปล​คิงเจมส์) ถึง​แม้​ว่า​คน​ที่​ขโมย​เพราะ​ความ​หิว​อาจ​จะ​ไม่​น่า​ตำหนิ​เท่า​กับ​คน​ที่​ขโมย​เพราะ​ความ​โลภ​หรือ​โดย​จงใจ​สร้าง​ความ​เดือดร้อน​ให้​คน​อื่น แต่​เขา​ก็​ยัง​ต้อง​รับผิดชอบ​โดย “ชำระ​คืน” หรือ​ชด​ใช้. คน​ที่​ต้องการ​ได้​รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​พระเจ้า​จะ​ต้อง​ไม่​ทำ​ผิด​ฐาน​ขโมย​ไม่​ว่า​ใน​สภาพการณ์​ใด ๆ ทั้ง​สิ้น.