กิจการของอัครสาวก 20:1-38

20  หลัง​จาก​ความ​วุ่นวาย​ผ่าน​ไป​แล้ว เปาโล​ก็​ส่ง​คน​ไป​ตาม​พวก​สาวก​มา เมื่อ​ให้​กำลังใจ​และ​บอก​ลา​พวก​เขา​แล้ว เปาโล​ก็​เดิน​ทาง​ไป​ที่​แคว้น​มาซิโดเนีย+  เปาโล​เดิน​ทาง​ไป​ตาม​เขต​ต่าง ๆ ใน​แคว้น​นี้​และ​พูด​ให้​กำลังใจ​พวก​สาวก​ที่​นั่น​หลาย​อย่าง แล้ว​ก็​ไป​ที่​กรีซ  เปาโล​อยู่​ที่​นั่น 3 เดือน แต่​ตอน​ที่​กำลัง​จะ​ลง​เรือ​ไป​แคว้น​ซีเรีย เขา​ก็​รู้​ว่า​พวก​ยิว​วาง​แผน​ทำ​ร้าย​เขา+ จึง​เปลี่ยน​ใจ​กลับ​ไป​ทาง​แคว้น​มาซิโดเนีย​แทน  คน​ที่​ร่วม​ทาง​กับ​เปาโล​มี​โสปาเทอร์​ลูก​ชาย​ปีรัส​จาก​เมือง​เบโรอา อาริสทาร์คัส+กับ​เสคุนดัส​จาก​เมือง​เธสะโลนิกา กายอัส​จาก​เมือง​เดอร์บี ทิโมธี+ แล้ว​ก็​ทีคิกัส+กับ​โตรฟีมัส+จาก​แคว้น​เอเชีย  คน​พวก​นี้​ไป​ที่​เมือง​โตรอัส​ก่อน​พวก​เรา​และ​คอย​อยู่​ที่​นั่น+  หลัง​จาก​เทศกาล​ขนมปัง​ไม่​ใส่​เชื้อ+ พวก​เรา​ลง​เรือ​ออก​จาก​เมือง​ฟีลิปปี และ 5 วัน​ต่อ​มา ก็​ไป​เจอ​กับ​พวก​เขา​ที่​เมือง​โตรอัส แล้ว​อยู่​ที่​นั่น 7 วัน  ใน​วัน​แรก​ของ​สัปดาห์ พวก​เรา​มา​อยู่​รวม​กัน​เพื่อ​กิน​อาหาร เปาโล​บรรยาย​ให้​ทุก​คน​ฟัง​เพราะ​เขา​กำลัง​จะ​เดิน​ทาง​ไป​ใน​วัน​รุ่ง​ขึ้น เขา​พูด​จน​ถึง​เที่ยง​คืน  ใน​ห้อง​ชั้น​บน​ที่​พวก​เรา​อยู่​ด้วย​กัน​มี​ตะเกียง​หลาย​ดวง  ตอน​ที่​เปาโล​กำลัง​บรรยาย​อยู่ มี​เด็ก​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ยุทิกัส​นั่ง​บน​ขอบ​หน้าต่าง เขา​หลับ​สนิท​แล้ว​หงาย​หลัง​พลัด​ตก​จาก​ชั้น​สาม พอ​คน​ไป​ถึง​ก็​เห็น​ว่า​เขา​ตาย​แล้ว 10  เปาโล​จึง​ลง​ไป​ข้าง​ล่าง​แล้ว​ก้ม​ตัว​ลง​ไป​กอด​เขา​ไว้+ และ​พูด​ว่า “ไม่​ต้อง​เป็น​ห่วง เขา​มี​ชีวิต​แล้ว”+ 11  แล้ว​เปาโล​ก็​ขึ้น​ไป​ข้าง​บน​และ​เริ่ม​กิน​อาหาร​กับ​พี่​น้อง หลัง​จาก​คุย​กัน​จน​ถึง​เช้า​เปาโล​ก็​ไป 12  พวก​เขา​พา​เด็ก​หนุ่ม​ที่​มี​ชีวิต​อีก​กลับ​ไป เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​พวก​เขา​มี​กำลังใจ​ขึ้น​มาก 13  เปาโล​ตั้งใจ​จะ​เดิน​เท้า​ไป​เมือง​อัสโสส ส่วน​พวก​เรา​ลง​เรือ​ไป​ที่​นั่น​ก่อน​เพื่อ​รอ​รับ​เปาโล​ตาม​ที่​เขา​สั่ง​ไว้ 14  พอ​เปาโล​มา​เจอ​พวก​เรา​ใน​เมือง​อัสโสส พวก​เรา​ก็​รับ​เขา​ลง​เรือ​แล้ว​ไป​เมือง​มิทิเลนี 15  วัน​รุ่ง​ขึ้น พวก​เรา​นั่ง​เรือ​จาก​ที่​นั่น​มา​ถึง​ฝั่ง​ตรง​ข้าม​เกาะ​คิโอส วัน​ต่อ​มา​ก็​แวะ​ที่​เกาะ​สามอส และ​อีก​วัน​หนึ่ง​ก็​มา​ถึง​เมือง​มิเลทัส 16  เปาโล​ตั้งใจ​จะ​นั่ง​เรือ​ผ่าน​เมือง​เอเฟซัส​ไป+ จะ​ได้​ไม่​ต้อง​เสีย​เวลา​ใน​แคว้น​เอเชีย​เพราะ​เขา​อยาก​จะ​รีบ​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม+ให้​ทัน​เทศกาล​เพ็นเทคอสต์+ถ้า​เป็น​ได้ 17  เมื่อ​อยู่​ที่​เมือง​มิเลทัส เปาโล​ใช้​คน​ไป​เชิญ​พวก​ผู้​ดู​แล​ใน​ประชาคม​ที่​เมือง​เอเฟซัส​ให้​มา​หา 18  พอ​พวก​เขา​มา​แล้ว เปาโล​ก็​พูด​ว่า “พวก​คุณ​รู้​ดี​ว่า​ตั้ง​แต่​วัน​แรก​ที่​ผม​เข้า​มา​ใน​แคว้น​เอเชีย ผม​ใช้​ชีวิต​ยัง​ไง​ตลอด​เวลา​ที่​อยู่​กับ​พวก​คุณ+ 19  ผม​ทำ​งาน​หนัก​รับใช้​ผู้​เป็น​นาย​ด้วย​ความ​ถ่อม​ตัว+ทั้ง​น้ำตา แล้ว​ยัง​ต้อง​ทน​ความ​ลำบาก​จาก​แผน​ร้าย​ต่าง ๆ ของ​พวก​ยิว 20  และ​พวก​คุณ​ก็​รู้​ว่า​ผม​ไม่​เคย​ลังเล​ที่​จะ​บอก​สิ่ง​ที่​เป็น​ประโยชน์​กับ​พวก​คุณ และ​ยัง​สอน​พวก​คุณ​ทั้ง​ใน​ที่​สาธารณะ+และ​ตาม​บ้าน​ด้วย+ 21  ผม​อธิบาย​อย่าง​ละเอียด*ให้​ทั้ง​คน​ยิว​และ​คน​กรีก​เข้าใจ​ว่า​พวก​เขา​ต้อง​กลับ​ใจ+แล้ว​หัน​มา​หา​พระเจ้า และ​เชื่อ​ใน​พระ​เยซู​ผู้​เป็น​นาย​ของ​เรา+ 22  ตอน​นี้ พลัง​ของ​พระเจ้า​กระตุ้น​ผม​ให้​เดิน​ทาง​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม+ ผม​เอง​ก็​ไม่​รู้​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​ผม​ที่​นั่น​บ้าง 23  แต่​ใน​ทุก​เมือง​ที่​ผม​ไป พลัง​บริสุทธิ์​ยืน​ยัน​กับ​ผม​หลาย​ครั้ง​แล้ว​ว่า ผม​จะ​ต้อง​ติด​คุก​และ​เจอ​ความ​ยาก​ลำบาก​หลาย​อย่าง+ 24  แต่​ผม​ไม่​ถือ​ว่า​ชีวิต​ผม​สำคัญ ขอ​แค่​ผม​ได้​วิ่ง​จน​ถึง​เส้น​ชัย+และ​ทำ​งาน​รับใช้​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย​จาก​พระ​เยซู​ผู้​เป็น​นาย​ให้​สำเร็จ+ คือ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ความ​กรุณา​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระเจ้า​ให้​ทั่ว​ถึง* 25  “และ​ใน​ตอน​นี้​ผม​รู้​แล้ว​ว่า​พวก​คุณ​ที่​ผม​เคย​ประกาศ​เรื่อง​รัฐบาล*ของ​พระเจ้า​ให้​ฟัง​จะ​ไม่​มี​ใคร​ได้​เห็น​หน้า​ผม​อีก 26  ดัง​นั้น วัน​นี้​พวก​คุณ​เป็น​พยาน​ยืน​ยัน​ให้​ผม​ได้​ว่า​ถ้า​มี​ใคร​ไม่​รอด ก็​จะ​มา​โทษ​ผม​ไม่​ได้+ 27  เพราะ​ผม​ได้​ทุ่มเท​ตัว​บอก​พวก​คุณ​ทุก​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​อยาก​ให้​เรา​ทำ+ 28  ให้​พวก​คุณ​เอา​ใจ​ใส่​ตัว​เอง+และ​ฝูง​แกะ​ที่​พลัง​บริสุทธิ์​ตั้ง​พวก​คุณ​ให้​เป็น​ผู้​ดู​แล+ และ​ให้​คอย​ดู​แล​ประชาคม​ของ​พระเจ้า+ที่​พระองค์​ซื้อ​ไว้​ด้วย​เลือด​ของ​ลูก​ของ​พระองค์​เอง+ 29  ผม​รู้​ว่า​เมื่อ​ผม​ไป​แล้ว จะ​มี​บาง​คน​เป็น​เหมือน​หมา​ป่า​ที่​ดุ​ร้าย​เข้า​มา​อยู่​ใน​กลุ่ม​พวก​คุณ+ และ​จะ​ไม่​กรุณา​ต่อ​ฝูง​แกะ​เลย 30  และ​จะ​มี​พวก​คุณ​บาง​คน​พูด​บิดเบือน​ความ​จริง​เพื่อ​ชักจูง​พวก​สาวก​ให้​ติด​ตาม​พวก​เขา​ไป+ 31  “ดัง​นั้น พวก​คุณ​ต้อง​ตื่น​ตัว​ไว้ และ​อย่า​ลืม​ว่า​ตลอด 3 ปี+ ผม​ได้​เตือน​สติ​พวก​คุณ​แต่​ละ​คน​ด้วย​น้ำตา​ทั้ง​วัน​ทั้ง​คืน​ไม่​หยุด 32  แต่​ตอน​นี้​ผม​ขอ​ฝาก​พวก​คุณ​ไว้​กับ​พระเจ้า พระองค์​จะ​ดู​แล​พวก​คุณ​โดย​ทาง​คำ​สอน​เกี่ยว​กับ​ความ​กรุณา​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระองค์ คำ​สอน​นั้น​จะ​ทำ​ให้​พวก​คุณ​เข้มแข็ง และ​จะ​ช่วย​พวก​คุณ​ให้​ได้​รับ​มรดก​สำหรับ​คน​ที่​ถูก​ชำระ​ให้​บริสุทธิ์*+ 33  ผม​ไม่​เคย​อยาก​ได้​เงิน​ทอง​หรือ​เสื้อ​ผ้า​ของ​ใคร+ 34  พวก​คุณ​ก็​รู้​ว่า​ผม​ทำ​งาน​เลี้ยง​ดู​ตัว​เอง+และ​คน​ที่​อยู่​กับ​ผม​ด้วย​สอง​มือ​นี้ 35  ที่​ผม​ทำ​มา​ทั้ง​หมด​ก็​เพื่อ​ให้​พวก​คุณ​เห็น​ว่า พวก​คุณ​ต้อง​ทำ​งาน​หนัก​แบบ​นี้​แหละ+เพื่อ​ช่วย​คน​ที่​อ่อนแอ และ​อย่า​ลืม​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ผู้​เป็น​นาย​เคย​พูด​ไว้​ว่า ‘การ​ให้+ทำ​ให้​มี​ความ​สุข​ยิ่ง​กว่า​การ​รับ’” 36  เมื่อ​เปาโล​พูด​จบ​แล้ว​ก็​คุกเข่า​ลง​อธิษฐาน​กับ​พวก​เขา 37  ทุก​คน​ร้องไห้​กัน​ใหญ่ แล้ว​พวก​เขา​ก็​กอด​และ​จูบ​ลา​เปาโล 38  พวก​เขา​รู้สึก​เศร้า​ใจ​มาก​ที่​เปาโล​บอก​ว่า​พวก​เขา​จะ​ไม่​เห็น​หน้า​เปาโล​อีก+ แล้ว​พวก​เขา​ก็​ไป​ส่ง​เปาโล​ที่​เรือ

เชิงอรรถ

หรือ “ประกาศ​อย่าง​ทั่ว​ถึง”
หรือ “อธิบาย​ข่าว​ดี​เรื่อง​ความ​กรุณา​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระเจ้า​อย่าง​ละเอียด”
หรือ “ราชอาณาจักร”
หรือ “ถูก​แยก​ไว้​ให้​เป็น​คน​ของ​พระเจ้า”

ข้อมูลสำหรับศึกษา

พวก​เรา: ตั้ง​แต่​ต้น​ของ​หนังสือ​กิจการ​จน​ถึง กจ 16:9 ลูกา​บันทึก​เรื่อง​ราว​เหมือน​กับ​ว่า​เขา​ไม่​ได้​อยู่​ใน​เหตุ​การณ์ แต่​ใน กจ 16:10 ลูกา​เปลี่ยน​วิธี​เขียน​ของ​เขา​โดย​รวม​ตัว​เขา​เอง​เข้า​ไป​ใน​เรื่อง​ราว​ด้วย ตั้ง​แต่​ข้อ​นี้​เขา​ใช้​คำ​ว่า “พวก​เรา” ซึ่ง​ดู​เหมือน​เป็น​การ​แสดง​ว่า​ลูกา​เดิน​ทาง​ร่วม​กับ​เปาโล​และ​เพื่อน ๆ ด้วย (ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ กจ 1:1 และ “บท​นำ​ของ​หนังสือ​กิจการ”) เมื่อ​ประมาณ​ปี ค.ศ. 50 ลูกา​เริ่ม​เดิน​ทาง​ร่วม​กับ​เปาโล​จาก​เมือง​โตรอัส​ไป​ถึง​เมือง​ฟีลิปปี แต่​ตอน​ที่​เปาโล​ออก​จาก​เมือง​ฟีลิปปี​ลูกา​ก็​ไม่​ได้​ไป​ด้วย—กจ 16:10-17, 40; ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ กจ 20:5; 27:1

พวก​เรา: ใน​ข้อ​นี้​ลูกา​ใช้​คำ​สรรพนาม “พวก​เรา” ซึ่ง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เขา​เข้า​ร่วม​ใน​การ​เดิน​ทาง​กับ​เปาโล​อีก​ครั้ง​ที่​เมือง​ฟีลิปปี ก่อน​หน้า​นี้​เขา​ได้​แยก​กับ​เปาโล​ใน​เมือง​ฟีลิปปี (กจ 16:10-17, 40) แต่​ตอน​นี้​เขา​ร่วม​เดิน​ทาง​กับ​เปาโล​จาก​เมือง​ฟีลิปปี​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม ซึ่ง​หลัง​จาก​นั้น​เปาโล​จะ​ถูก​จับ​ที่​นั่น (กจ 20:5-21:18, 33) นี่​เป็น​ส่วน​ที่ 2 ของ​หนังสือ​กิจการ​ที่​ลูกา​บันทึก​เรื่อง​ราว​เหมือน​กับ​ว่า​เขา​อยู่​ใน​เหตุ​การณ์—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ กจ 16:10; 27:1

พวก​เรา: เหมือน​ที่​บอก​ไว้​ในข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ กจ 16:10 และ 20:5 มี​หลาย​ส่วน​ใน​หนังสือ​กิจการ​ที่​ลูกา​ซึ่ง​เป็น​ผู้​บันทึก​เรื่อง​ราว​ใช้​คำ​สรรพนาม “พวก​เรา” (กจ 27:20) ซึ่ง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​มี​หลาย​ช่วง​ที่​ลูกา​ร่วม​เดิน​ทาง​ไป​กับ​เปาโล ใน​หนังสือ​กิจการ​ตั้ง​แต่​ข้อ​นี้​ไป​จน​ถึง กจ 28:16 ลูกา​ก็​ใช้​คำ​ว่า​พวก​เรา​ซึ่ง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ลูกา​เดิน​ทาง​ไป​กรุง​โรม​กับ​เปาโล

เทศกาล​ขนมปัง​ไม่​ใส่​เชื้อ: ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “เทศกาล​ขนมปัง​ไม่​ใส่​เชื้อ”—ดูภาค​ผนวก ข​15

กิน​อาหาร: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “หัก​ขนมปัง” ขนมปัง​เป็น​อาหาร​หลัก​ที่​ผู้​คน​ใน​ตะวัน​ออก​กลาง​สมัย​โบราณ​กิน​กัน ดัง​นั้น สำนวน​นี้​จึง​หมาย​ถึง​การ​กิน​อาหาร​ทั่ว​ไป ขนมปัง​ใน​สมัย​นั้น​มัก​เป็น​ก้อน​แบน ๆ ที่​อบ​จน​แข็ง จึง​ต้อง​แบ่ง​ด้วย​การ​หัก​ไม่​ใช่​ใช้​มีด​ตัด ดัง​นั้น การ​หัก​ขนมปัง​กิน​จึง​เป็น​สิ่ง​ที่​ทำ​กัน​ทั่ว​ไป​และ​พระ​เยซู​ก็​ทำ​บ่อย ๆ (ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 14:19; ดู มธ 15:36; ลก 24:30 ด้วย) ตอน​ที่​พระ​เยซู​ตั้ง​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​พระ​คริสต์ ท่าน​หยิบ​ขนมปัง​แผ่น​หนึ่ง​ขึ้น​มา​หัก ซึ่ง​เป็น​วิธี​แบ่ง​ขนมปัง​ตาม​ปกติ​ไม่​ได้​มี​ความ​หมาย​อะไร​เป็น​พิเศษ (ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 26:26) บาง​คน​คิด​ว่า​เมื่อ​มี​การ​ใช้​สำนวน​นี้​ใน​หนังสือ​กิจการ​บาง​ครั้ง​ก็​หมาย​ถึง​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​พระ​คริสต์ (กจ 2:42, 46; 20:7, 11) บาง​คน​คิด​ว่า​เมื่อ​มี​การ​พูด​ถึง​สำนวน​นี้​ใน​หนังสือ​กิจการ บาง​ครั้ง​ก็​หมาย​ถึง​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​พระ​คริสต์ แต่​ทุก​ครั้ง​ที่​พระ​คัมภีร์​พูด​ถึง​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​พระ​คริสต์ ก็​มัก​จะ​พูด​ถึง​ทั้ง​การ​หัก​ขนมปัง​และ​การ​ดื่ม​เหล้า​องุ่น (มธ 26:26-28; มก 14:22-25; ลก 22:19, 20; 1คร 10:16-21; 11:23-26) และ​ทั้ง 2 อย่าง​นี้​มี​ความ​สำคัญ​เท่า​กัน ดัง​นั้น เมื่อ​พูด​ถึง​การ​หัก​ขนมปัง​อย่าง​เดียว​โดย​ไม่​พูด​ถึง​การ​ดื่ม​เหล้า​องุ่น​จึง​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​พระ​คริสต์ แต่​เป็น​แค่​การ​กิน​อาหาร​ธรรมดา​ทั่ว​ไป นอก​จาก​นั้น ไม่​มี​ที่​ไหน​ที่​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​ตั้งใจ​ให้​มี​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​เพื่อ​ระลึก​ถึง​การ​ตาย​ของ​ท่าน​บ่อย​กว่า​การ​ฉลอง​ปัสกา​ที่​ทำ​กัน​แค่​ปี​ละ 1 ครั้ง แต่​เป็น​แค่​การ​กิน​อาหาร​ธรรมดา​ทั่ว​ไป

หยิบ​ขนมปัง​แผ่น​หนึ่ง . . . หัก: ขนมปัง​ที่​กิน​กัน​ตาม​ปกติ​ในประเทศ​แถบ​ตะวัน​ออก​กลาง​สมัย​โบราณจะ​เป็น​แผ่น​บาง และ​ถ้า​ไม่​ใส่​เชื้อ​ก็​จะ​หัก​ได้​ง่าย การ​ที่​พระ​เยซู​หัก​ขนมปัง​ไม่​ได้​มี​ความ​หมาย​อะไร​เป็น​พิเศษ นี่​เป็น​วิธี​แบ่ง​ขนมปัง​ตาม​ปกติ—ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 14:19

หัก​ขนมปัง: ขนมปัง​ใน​สมัย​นั้น​มัก​เป็น​ก้อน​แบน​ ๆ ที่​อบ​จน​แข็ง จึง​เป็น​เรื่อง​ปกติ​ที่​จะ​หัก​ขนมปัง​ก่อน​กิน—มธ 15:36; 26:26; มก 6:41; 8:6; ลก 9:16

เขา​มี​ชีวิต​แล้ว: หรือ “ชีวิต​ยัง​อยู่​ใน​ตัว​เขา” ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก มัก​ใช้​คำ​กรีก พะซูเฆ เพื่อ​หมาย​ถึง “ชีวิต”—มธ 6:25; 10:39; 16:25, 26; ลก 12:20; ยน 10:11, 15; 13:37, 38; 15:13

กิน​อาหาร: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “หัก​ขนมปัง” ขนมปัง​เป็น​อาหาร​หลัก​ที่​ผู้​คน​ใน​ตะวัน​ออก​กลาง​สมัย​โบราณ​กิน​กัน ดัง​นั้น สำนวน​นี้​จึง​หมาย​ถึง​การ​กิน​อาหาร​ทั่ว​ไป ขนมปัง​ใน​สมัย​นั้น​มัก​เป็น​ก้อน​แบน ๆ ที่​อบ​จน​แข็ง จึง​ต้อง​แบ่ง​ด้วย​การ​หัก​ไม่​ใช่​ใช้​มีด​ตัด ดัง​นั้น การ​หัก​ขนมปัง​กิน​จึง​เป็น​สิ่ง​ที่​ทำ​กัน​ทั่ว​ไป​และ​พระ​เยซู​ก็​ทำ​บ่อย ๆ (ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 14:19; ดู มธ 15:36; ลก 24:30 ด้วย) ตอน​ที่​พระ​เยซู​ตั้ง​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​พระ​คริสต์ ท่าน​หยิบ​ขนมปัง​แผ่น​หนึ่ง​ขึ้น​มา​หัก ซึ่ง​เป็น​วิธี​แบ่ง​ขนมปัง​ตาม​ปกติ​ไม่​ได้​มี​ความ​หมาย​อะไร​เป็น​พิเศษ (ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 26:26) บาง​คน​คิด​ว่า​เมื่อ​มี​การ​ใช้​สำนวน​นี้​ใน​หนังสือ​กิจการ​บาง​ครั้ง​ก็​หมาย​ถึง​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​พระ​คริสต์ (กจ 2:42, 46; 20:7, 11) บาง​คน​คิด​ว่า​เมื่อ​มี​การ​พูด​ถึง​สำนวน​นี้​ใน​หนังสือ​กิจการ บาง​ครั้ง​ก็​หมาย​ถึง​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​พระ​คริสต์ แต่​ทุก​ครั้ง​ที่​พระ​คัมภีร์​พูด​ถึง​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​พระ​คริสต์ ก็​มัก​จะ​พูด​ถึง​ทั้ง​การ​หัก​ขนมปัง​และ​การ​ดื่ม​เหล้า​องุ่น (มธ 26:26-28; มก 14:22-25; ลก 22:19, 20; 1คร 10:16-21; 11:23-26) และ​ทั้ง 2 อย่าง​นี้​มี​ความ​สำคัญ​เท่า​กัน ดัง​นั้น เมื่อ​พูด​ถึง​การ​หัก​ขนมปัง​อย่าง​เดียว​โดย​ไม่​พูด​ถึง​การ​ดื่ม​เหล้า​องุ่น​จึง​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​พระ​คริสต์ แต่​เป็น​แค่​การ​กิน​อาหาร​ธรรมดา​ทั่ว​ไป นอก​จาก​นั้น ไม่​มี​ที่​ไหน​ที่​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​ตั้งใจ​ให้​มี​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​เพื่อ​ระลึก​ถึง​การ​ตาย​ของ​ท่าน​บ่อย​กว่า​การ​ฉลอง​ปัสกา​ที่​ทำ​กัน​แค่​ปี​ละ 1 ครั้ง แต่​เป็น​แค่​การ​กิน​อาหาร​ธรรมดา​ทั่ว​ไป

กิน​อาหาร: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “หัก​ขนมปัง”—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ กจ 20:7

ผู้​ดู​แล: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “คน​สูง​อายุ” คำ​กรีก เพร็สบูเทะรอส ที่​ใช้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​มัก​จะ​หมาย​ถึง​คน​ที่​มี​ตำแหน่ง​และ​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ใน​ชุมชน​หรือ​ใน​ชาติ ใน​ชาติ​อิสราเอล​สมัย​โบราณ พวก​ผู้​ชาย​ที่​เป็น​ผู้​ใหญ่​ด้าน​ความ​เชื่อ​จะ​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​ผู้​นำ​และ​ผู้​บริหาร​งาน​ตาม​เมือง​ต่าง ๆ พวก​ผู้​ชาย​ที่​เป็น​ผู้​ใหญ่​ด้าน​ความ​เชื่อ​ใน​ประชาคม​ต่าง ๆ ใน​ศตวรรษ​แรก​ก็​ทำ​หน้า​ที่​คล้าย​กัน ใน​บันทึก​เหตุ​การณ์​นี้​ที่​เปาโล​ประชุม​กับ​พวก​ผู้​ดู​แล​ที่​มา​จาก​เมือง​เอเฟซัส​แสดง​ให้​เห็น​ชัดเจน​ว่า​ใน​ประชาคม​นั้น​มี​ผู้​ดู​แล​มาก​กว่า 1 คน ประชาคม​หนึ่ง​จะ​มี​ผู้​ดู​แล​กี่​คน​ก็​ขึ้น​อยู่​กับ​ว่า​ประชาคม​นั้น​มี​พวก​ผู้​ชาย​ที่​เป็น​ผู้​ใหญ่​ด้าน​ความ​เชื่อ​ที่​มี​คุณสมบัติ​กี่​คน (1ทธ 3:1-7; ทต 1:5-8) ตอน​ที่​เปาโล​เขียน​จดหมาย​ฉบับ​แรก​ถึง​ทิโมธี​ซึ่ง​ตอน​นั้น​น่า​จะ​อยู่​ใน​เมือง​เอเฟซัส เขา​ก็​พูด​ถึง “คณะ​ผู้​ดู​แล” ใน​เมือง​นั้น—1ทธ 1:3; 4:14

ความ​ถ่อม​ตัว: ความ​ถ่อม​ตรง​กัน​ข้าม​กับ​ความ​หยิ่ง คน​ถ่อม​จะ​คิด​ว่า​พระเจ้า​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​เขา​มาก​และ​ยอม​รับ​ว่า​คน​อื่น​ดี​กว่า​เขา ความ​ถ่อม​ไม่​ใช่​ความ​อ่อนแอ​แต่​เป็น​คุณลักษณะ​ที่​ทำ​ให้​พระเจ้า​พอ​ใจ คริสเตียน​ที่​ถ่อม​จะ​ทำ​งาน​ร่วม​กับ​คน​อื่น​ได้​เป็น​อย่าง​ดี (อฟ 4:2; ฟป 2:3; คส 3:12; 1ปต 5:5) ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก คำ ทา​เพ่น​อฟ​รอ​ซู​เน ที่​ใน​ข้อ​นี้​แปล​ว่า “ความ​ถ่อม​ตัว” มา​จาก​คำ​กรีก 2 คำ คือ ทา​เพ่น​อ​โอ ที่​แปล​ว่า “ทำ​ให้​ต่ำต้อย” และ​คำ​ว่า เฟรน ที่​แปล​ว่า “จิตใจ” ดัง​นั้น เมื่อ​เอา 2 คำ​นี้​มา​รวม​กัน​จึง​มี​ความ​หมาย​ตรง​ตัว​ว่า “จิตใจ​ต่ำต้อย” คำ​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กัน​คือ ทาเพ่นอส ซึ่ง​แปล​ว่า “ถ่อม​ตัว” (มธ 11:29) และ “คน​อ่อนน้อม​ถ่อม​ตน” (ยก 4:6; 1ปต 5:5)—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 11:29

ถ่อม​ตัว: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ต่ำต้อย​ใน​หัวใจ” คำ​กรีก​ที่​แปล​ว่า “ถ่อม” หมาย​ถึง​อ่อนน้อม​ถ่อม​ตน​และ​ไม่​โอ้อวด มี​การ​ใช้​คำ​กรีก​นี้​ที่ ยก 4:6 และ 1ปต 5:5 ด้วย ซึ่ง​ทั้ง​สอง​ข้อ​นั้น​แปล​ว่า “คน​อ่อนน้อม​ถ่อม​ตน” สภาพ​หัวใจ​โดย​นัย​ของ​คน​เรา​จะ​เห็น​ได้​จาก​ความ​คิด​ที่​เขา​มี​ต่อ​พระเจ้า​และ​คน​อื่น​ ๆ รวม​ทั้ง​นิสัย​ใจ​คอ​ของ​เขา​ด้วย

ตาม​บ้าน: จาก​ท้อง​เรื่อง​นี้​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เปาโล​เคย​ไป​เยี่ยม​พวก​ผู้​ดู​แล​จาก​เมือง​เอเฟซัส​เพื่อ​สอน​พวก​เขา​ให้ “กลับ​ใจ​และ​เชื่อ​ใน​พระ​เยซู​ผู้​เป็น​นาย” (กจ 20:21) ดัง​นั้น เปาโล​ไม่​ได้​พูด​ถึง​แค่​การ​ไป​ถาม​ไถ่​สาร​ทุกข์​สุก​ดิบ​หรือ​การ​เยี่ยม​ให้​กำลังใจ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​เท่า​นั้น เพราะ​พวก​เขา​ได้​กลับ​ใจ​และ​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​เยซู​อยู่​แล้ว ใน​หนังสือ Word Pictures in the New Testament ดร. โรเบิร์ตสัน​ให้​ความ​เห็น​เกี่ยว​กับ​กิจการ 20:20 ไว้​ว่า “น่า​สังเกต​ว่า ผู้​ประกาศ​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ผู้​นี้​ทำ​งาน​ประกาศ​ตาม​บ้าน เขา​ไม่​ใช่​แค่​ไป​เยี่ยม​เพื่อ​ถาม​ไถ่​สาร​ทุกข์​สุก​ดิบ​เท่า​นั้น” (1930, Vol. III, pp. 349-350) ใน​หนังสือ Th​e Acts of the Apostles With a Commentary p. 270 (1844) เอ​บิ​เอล แอบบอต ให้​ความ​เห็น​เกี่ยว​กับ​คำ​พูด​ของ​เปาโล​ที่​กิจการ 20:20 ว่า “เขา​ไม่​ได้​พอ​ใจ​แค่​การ​บรรยาย​ให้​คน​ส่วน​ใหญ่​ฟัง​เท่า​นั้น แต่​เขา​ยัง​กระตือรือร้น​ที่​จะ​ทำ​งาน​ประกาศ​ให้​แต่​ละ​คน​ฟัง​ตาม​บ้าน​ด้วย เปาโล​เอา​ความ​จริง​จาก​สวรรค์​เข้า​ไป​ถึง​ใน​บ้าน และ​ใส่​ไว้​ใน​หัวใจ​ชาว​เมือง​เอเฟซัส”—สำหรับ​คำ​อธิบาย​เพิ่ม​เติม​เกี่ยว​กับ​คำ​ว่า คาทออยคอน ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ กจ 5:42

ตาม​บ้าน​เรือน: มา​จาก​สำนวน​กรีก คาทออยคอน พจนานุกรม​หลาย​ฉบับ​และ​ผู้​เชี่ยวชาญ​หลาย​คน​บอก​ว่า​คำ​กรีก คาทา สามารถ​ใช้​ใน​แง่​ของ​การ​กระจาย​ได้​ด้วย ตัว​อย่าง​เช่น พจนานุกรม​หนึ่ง​บอก​ว่า​สำนวน​นี้​หมาย​ถึง “การ​กระจาย​ไป​ตาม​บ้าน​ที​ละ​หลัง” (A Greek-English Lexicon of the New Testament and Other Early Christian Literature, Third Edition) แหล่ง​อ้างอิง​อีก​แหล่ง​บอก​ว่า​คำ คา​ทา ที่​ใช้​ใน กจ 2:46; 5:42 ก็​ใช้​ใน​แง่​ของ​การ​กระจาย และ​ริชาร์ด เลนสกี นัก​วิชาการ​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “พวก​อัครสาวก​ไม่​เคย​หยุด​ทำ​งาน​นี้​เลย พวก​เขา​ออก​ไป​ประกาศ​อย่าง​เปิด​เผย​ทุก​วัน​ที่​วิหาร ซึ่ง​เป็น​ที่​ที่​สมาชิก​ของ​ศาล​แซนเฮดริน​และ​ตำรวจ​ประจำ​วิหาร​สามารถ​เห็น​และ​ได้​ยิน​พวก​เขา และ​เนื่อง​จาก​คำ​ว่า คาทออยคอน เป็น​คำ​ที่​แสดง​ถึง​การ​กระจาย จึง​หมาย​ความ​ว่า​พวก​เขา​ไป​ตาม​บ้าน​ต่าง ๆ ด้วย’” (The Interpretation of the Acts of the Apostles, 1961) แหล่ง​อ้างอิง​เหล่า​นี้​จึง​สนับสนุน​ว่า​การ​ประกาศ​ของ​พวก​สาวก​เป็น​การ​ประกาศ​ตาม​บ้าน มี​การ​ใช้​คำ คาทา ใน​ความ​หมาย​คล้าย​กัน​นี้​ที่ ลก 8:1 ซึ่ง​ใน​ข้อ​นั้น​บอก​ว่า​พระ​เยซู​ไป​ประกาศ “ตาม​เมือง​และ​ตาม​หมู่​บ้าน” การ​พยายาม​เข้า​ถึง​ผู้​คน​ตาม​บ้าน​แบบ​นี้​เกิด​ผล​ที่​น่า​ทึ่ง—กจ 6:7; เทียบ​กับ กจ 4:16, 17; 5:28

กระตุ้น: เปาโล​รู้สึก​ว่า​เป็น​หน้า​ที่​และ​เขา​ก็​เต็ม​ใจ​ทำ​ตาม​การ​ชี้​นำ​จาก​พลัง​ของ​พระเจ้า​ที่​ให้​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม

ชีวิต​ผม: มา​จาก​คำ​กรีก พะซูเฆ ซึ่ง​ใน​ท้อง​เรื่อง​นี้​หมาย​ถึง​ชีวิต​ของ​คน​หนึ่ง—ดูภาค​ผนวก ก​2

ประกาศ: คำ​กรีก​นี้​มี​ความ​หมาย​หลัก​ว่า “ป่าว​ประกาศ​ใน​ฐานะ​ผู้​ส่ง​ข่าว​อย่าง​เปิด​เผย” คำ​นี้​เน้น​ลักษณะ​ของ​การ​ประกาศ​ว่า​มัก​เป็น​การ​พูด​อย่าง​เปิด​เผย​ให้​สาธารณชน​รู้ ไม่​ใช่​การ​เทศน์​ให้​คน​แค่​กลุ่ม​หนึ่ง​ฟัง เรื่อง​หลัก​ที่​คริสเตียน​ประกาศ​ยัง​คง​เป็น​เรื่อง “รัฐบาล​ของ​พระเจ้า”—กจ 28:31

รัฐบาล​ของ​พระเจ้า: นี่​เป็น​หัวเรื่อง​หลัก​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ทั้ง​เล่ม​และ​เป็น​เนื้อหา​หลัก​ของ​หนังสือ​กิจการ​ด้วย (กจ 1:3; 8:12; 14:22; 19:8; 20:25; 28:23, 31) ฉบับ​แปล​บาง​ฉบับ​ใน​ยุค​แรก เช่น ฉบับ​วัลเกต​ ภาษา​ละติน และ​ฉบับ​เพชิตตา ภาษา​ซีรี​แอก ก็​ใช้​คำ​ว่า “รัฐบาล​ของ​พระเจ้า” ฉบับ​แปล​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก​เป็น​ภาษา​ฮีบรู​ฉบับ​หนึ่ง​มี​ชื่อ​ของ​พระเจ้า​อยู่​ด้วย สำนวน​นี้​จึง​แปล​ได้​ว่า “รัฐบาล​ของ​พระ​ยะโฮวา”

ถ้า​มี​ใคร​ไม่​รอด ก็​จะ​มา​โทษ​ผม​ไม่​ได้: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ผม​สะอาด​จาก​เลือด​ของ​ทุก​คน” เปาโล​ไม่​ต้อง​รับผิดชอบ​ต่อ​พระเจ้า​เพราะ​เขา​ได้​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​แล้ว เขา​ได้​บอก​ข่าวสาร​ที่​ช่วย​ชีวิต​ให้​ทุก​คน​ได้​รู้ (กจ 18:6; เทียบ​กับ อสค 33:6-8) เปาโล​บอก “ทุก​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​อยาก​ให้​เรา​ทำ” กับ​สาวก​ใน​เมือง​เอเฟซัส เพราะ​เขา​ไม่​อยาก​ให้​ใคร​ต้อง​ตาย​ใน​วัน​ที่​พระเจ้า​มา​พิพากษา (กจ 20:27) วิธี​อื่น​ที่​อาจ​ทำ​ให้​คริสเตียน​มี​ความ​ผิด​และ​ต้อง​รับผิดชอบ​ต่อ​พระเจ้า​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้​ก็​คือ​การ​สนับสนุน​องค์การ​ต่าง ๆ ที่​ทำ​ให้​คน​ตาย เช่น “บาบิโลน​ใหญ่” ทั้ง​โดย​ทาง​ตรง​หรือ​ทาง​อ้อม (วว 17:6; 18:2, 4) หรือ​สนับสนุน​องค์การ​อื่น ๆ ที่​ทำ​ให้​คน​บริสุทธิ์​ต้อง​ตาย (วว 16:5, 6; เทียบ​กับ อสย 26:20, 21) นอก​จาก​นั้น ความ​ผิด​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เลือด​ยัง​รวม​ถึง​การ​กิน​เลือด​หรือ​การ​รับ​เลือด​ไม่​ว่า​จะ​ใน​ทาง​ใด​เข้า​ร่าง​กาย—กจ 15:20

ทุก​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​อยาก​ให้​เรา​ทำ: หรือ “ความ​ประสงค์​ทั้ง​หมด​ของ​พระเจ้า” สำนวน​นี้​หมาย​ถึง​ทุก​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ตั้งใจ​จะ​ทำ​โดย​ทาง​รัฐบาล​ของ​พระองค์ ซึ่ง​รวม​ถึง​ทุก​สิ่ง​ที่​พระองค์​มอง​ว่า​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​เพื่อ​จะ​ช่วย​มนุษย์​ให้​รอด (กจ 20:25) คำ​กรีก บู่​เล มี​การ​แปล​ไว้​ที่ ลก 7:30 ว่า “คำ​แนะ​นำ [หรือ “คำ​สั่ง,” เชิงอรรถ]” และ​ที่ ฮบ 6:17 ว่า “ความ​ประสงค์”

เอา​ใจ​ใส่: หรือ “เฝ้า​ดู” พระ​ยะโฮวา​รัก​ทุก​คน​ที่​อยู่​ใน​ฝูง​แกะ​ของ​พระองค์ เพราะ​พระองค์​ซื้อ​พวก​เขา​มา​ด้วย​สิ่ง​ที่​มี​ค่า​มาก​ซึ่ง​ก็​คือ “เลือด​ของ​ลูก​ของ​พระองค์​เอง” พระองค์​ยอม​จ่าย​ด้วย​สิ่ง​ที่​มี​ค่า​มาก​ที่​สุด ดัง​นั้น ผู้​ดู​แล​ที่​ถ่อม​ตัว​จะ​คอย​ดู​แล​เอา​ใจ​ใส่​พี่​น้อง​ทุก​คน​ใน​ฝูง​แกะ​นี้ พวก​เขา​จะ​คิด​อยู่​เสมอ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​รัก​แกะ​ของ​พระองค์​มาก—1ปต 5:1-3

ผู้​ดู​แล: มา​จาก​คำ​กรีก เอะพิสคอพ็อส คำ​นี้​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คำ​กริยา เอะ​พิสคอเพะโอ ที่​แปล​ว่า “ระวัง​ให้​ดี” (ฮบ 12:15) และ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คำ​นาม เอะ​พิ​สะ​คอ​เพ ที่​แปล​ว่า “ตรวจตรา, ตรวจ​สอบ” (ลก 19:44, ฉบับ​แปล​คิงดอม อินเตอร์ลิเนียร์; 1ปต 2:12) “ทำ​หน้า​ที่​ผู้​ดู​แล” (1ทธ 3:1) หรือ “หน้า​ที่​ผู้​ดู​แล” (กจ 1:20) ดัง​นั้น ผู้​ดู​แล​จะ​คอย​เยี่ยม ตรวจตรา และ​ชี้​นำ​พี่​น้อง​ใน​ประชาคม ความ​หมาย​พื้น​ฐาน​ของ​คำ​กรีก​ที่​แปล​ว่า “ผู้​ดู​แล” เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​คอย​ดู​แล​เพื่อ​ปก​ป้อง พวก​ผู้​ดู​แล​ใน​ประชาคม​คริสเตียน​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ใน​การ​ดู​แล​เอา​ใจ​ใส่​ความ​เชื่อ​ของ​พี่​น้อง ใน​ข้อ​นี้​เปาโล​ใช้​คำ​ว่า “ผู้​ดู​แล” (เอะพิสคอเพะโอ) ตอน​ที่​เขา​พูด​กับ “ผู้​ดู​แล” (เพร็สบูเทะรอส) ที่​มา​จาก​ประชาคม​เอเฟซัส (กจ 20:17) และ​ใน​จดหมาย​ที่​เขียน​ถึง​ทิตัส เขา​ก็​ใช้​คำ​ว่า “ผู้​ดู​แล” (เอะพิสคอเพะโอ) ตอน​ที่​พูด​ถึง​คุณสมบัติ​ของ​คน​ที่​จะ​เป็น “ผู้​ดู​แล” (เพร็สบูเทะรอส) ใน​ประชาคม​คริสเตียน (ทต 1:5, 7) ดัง​นั้น คำ​ว่า เอะพิสคอพ็อส และ เพร็สบูเทะรอส จึง​หมาย​ถึง​คน​กลุ่ม​เดียว​กัน​คือ​ผู้​ดู​แล​ใน​ประชาคม โดย​คำ​ว่า เพร็สบูเทะรอส แสดง​ถึง​ความ​เป็น​ผู้​ใหญ่ และ​คำ​ว่า เอะพิสคอพ็อส แสดง​ถึง​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ของ​คน​ที่​ถูก​แต่ง​ตั้ง​ให้​เป็น​ผู้​ดู​แล ใน​บันทึก​เหตุ​การณ์​นี้​ที่​เปาโล​ประชุม​กับ​พวก​ผู้​ดู​แล​ที่​มา​จาก​เมือง​เอเฟซัส​แสดง​ให้​เห็น​ชัดเจน​ว่า​ใน​ประชาคม​นั้น​มี​ผู้​ดู​แล​หลาย​คน ประชาคม​หนึ่ง​จะ​มี​ผู้​ดู​แล​กี่​คน​ก็​ขึ้น​อยู่​กับ​ว่า​ประชาคม​นั้น​มี​ผู้​พวก​ผู้​ชาย​ที่​เป็น​ผู้​ใหญ่​ด้าน​ความ​เชื่อ​ที่​มี​คุณสมบัติ​เป็น “ผู้​ดู​แล” กี่​คน และ​ตอน​ที่​เปาโล​เขียน​จดหมาย​ถึง​พี่​น้อง​ใน​เมือง​ฟีลิปปี เขา​ก็​พูด​ถึง “พวก​ผู้​ดู​แล” (ฟป 1:1) ซึ่ง​แสดง​ว่า​ที่​นั่น​มี​คณะ​ผู้​ดู​แล​คอย​ดู​แล​งาน​ต่าง ๆ ใน​ประชาคม—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ กจ 1:20

พระเจ้า: สำเนา​พระ​คัมภีร์​เก่าแก่​บาง​ฉบับ​ใช้​คำ​ว่า “องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” ใน​ข้อ​นี้ แต่​สำเนา​พระ​คัมภีร์​ที่​น่า​เชื่อถือ​ส่วน​ใหญ่​สนับสนุน​การ​แปล​ว่า “พระเจ้า” และ​นัก​วิชาการ​หลาย​คน​ก็​เชื่อ​ว่า​ใน​พระ​คัมภีร์​ต้น​ฉบับ​ใช้​คำ​ว่า “พระเจ้า”

ด้วย​เลือด​ของ​ลูก​ของ​พระองค์​เอง: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “โดย​ทาง​เลือด​ของ​ตัว​เอง” สำนวน​กรีก​นี้​อาจ​แปล​ได้​ด้วย​ว่า “ด้วย​เลือด​ของ” ดัง​นั้น เพื่อ​จะ​เข้าใจ​ความ​หมาย​จึง​ต้อง​ดู​จาก​ท้อง​เรื่อง ใน​ภาษา​กรีก​สามารถ​ใช้​คำ ฮอ อิ​ดิ​ออ​ส (“ของ”) โดย​ไม่​ต้อง​มี​คำ​นาม​หรือ​สรรพนาม​อยู่​ด้วย ใน​เอกสาร​พาไพรัส​ภาษา​กรีก​ที่​ไม่​ใช่​คัมภีร์​ไบเบิล​ก็​ใช้​สำนวน​นี้​กับ​ญาติ​ใกล้​ชิด​ที่​รัก คน​ที่​อ่าน​ข้อ​คัมภีร์​นี้​จึง​เข้าใจ​ได้​ไม่​ยาก​ว่า​คำ​นี้​ใช้​เพื่อ​หมาย​ถึง​พระ​เยซู​ที่​เป็น​ลูก​ชาย​คน​เดียว​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​ยอม​สละ​เลือด​ของ​ตัว​เอง จาก​เหตุ​ผล​นี้ ผู้​เชี่ยวชาญ​และ​ผู้​แปล​หลาย​คน​ยอม​รับ​ว่า​ควร​จะ​ใส่​คำ​ว่า “ลูก” ใน​ข้อ​นี้ และ​แปล​ว่า “ด้วย​เลือด​ของ​ลูก​ของ​พระองค์​เอง”

หน้า​ที่​ผู้​ดู​แล: หรือ “งาน​มอบหมาย​ฐานะ​ผู้​ดู​แล” คำ​กรีก เอะพิสะคอเพ ที่​ใช้​ใน​ข้อ​นี้​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คำ​นาม​กรีก เอะพิสคอพ็อส (ผู้​ดู​แล) และ​คำ​กริยา​กรีก เอะพิสคอเพะโอ (ระวัง​ให้​ดี) ที่​ใช้​ใน ฮบ 12:15 ใน​ข้อ​นี้​เปโตร​ยก สด 109:8 เพื่อ​ให้​เหตุ​ผล​ว่า​ทำไม​เขา​ถึง​เสนอ​แนะ​ให้​เลือก​คน​หนึ่ง​มา​แทน​ที่​อัครสาวก​ยูดาส​ที่​ไม่​ซื่อ​สัตย์ ซึ่ง​ใน​หนังสือ​สดุดี​ใช้​คำ​ฮีบรู เพคัดดาห์ ที่​แปล​ได้​ว่า “ดู​แล” “ผู้​ดู​แล” (กดว 4:16; อสย 60:17) และ​ใน​ฉบับ​เซปตัวจินต์ ที่ สด 108:8 (108:8, LXX) ก็​ใช้​คำ​กรีก​เดียว​กัน​กับ​ที่​ลูกา​ใช้​ใน กจ 1:20 จาก​คำ​พูด​นี้​ของ​เปโตร​ที่​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​เห็น​ได้​ชัดเจน​ว่า​พวก​อัครสาวก​มี​หน้า​ที่​หรือ​ได้​รับ​งาน​มอบหมาย​ให้​เป็น​ผู้​ดู​แล พวก​เขา​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​โดย​ตรง​จาก​พระ​เยซู (มก 3:14) ดัง​นั้น ใน​วัน​เพ็นเทคอสต์ ปี ค.ศ. 33 ซึ่ง​เป็น​ตอน​เริ่ม​ต้น​ของ​ประชาคม​คริสเตียน​จึง​มี​ผู้​ดู​แล 12 คน และ​ประชาคม​ก็​เติบโต​จาก 120 คน​เป็น​ประมาณ 3,000 คน​ใน​วัน​เดียว (กจ 1:15; 2:41) หลัง​จาก​นั้น ก็​มี​การ​แต่ง​ตั้ง​ผู้​ดู​แล​คน​อื่น ๆ ให้​ช่วย​ดู​แล​ประชาคม​ที่​กำลัง​เติบโต แต่​หน้า​ที่​ใน​ฐานะ​ผู้​ดู​แล​ของ​พวก​อัครสาวก​ก็​ยัง​มี​ความ​พิเศษ​ด้วย เพราะ​ดู​เหมือน​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ตั้งใจ​ให้​อัครสาวก 12 คน​เป็น “หิน​ฐาน​ราก 12 ก้อน” ของ​เยรูซาเล็ม​ใหม่​ใน​อนาคต—วว 21:14; ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ กจ 20:28

พระเจ้า: สำเนา​พระ​คัมภีร์​บาง​ฉบับ​ใช้​คำ​ว่า “องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” ใน​ข้อ​นี้ แต่​สำเนา​พระ​คัมภีร์​ส่วน​ใหญ่​ใช้​คำ​ว่า “พระเจ้า”

สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ผู้​เป็น​นาย​เคย​พูด: อัครสาวก​เปาโล​เป็น​คน​เดียว​ที่​ยก​คำ​พูด​นี้​ของ​พระ​เยซู ถึง​แม้​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​และ​ส่วน​อื่น ๆ ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ได้​รับ​การ​ดล​จะ​มี​คำ​พูด​ที่​มี​แนว​คิด​คล้าย ๆ กัน​นี้ (สด 41:1; สภษ 11:25; 19:17; มธ 10:8; ลก 6:38) เปาโล​อาจ​ได้​ยิน​คำ​พูด​นี้​จาก​คน​ที่​เคย​ได้​ยิน​พระ​เยซู​พูด หรือ​จาก​ตัว​พระ​เยซู​เอง​หลัง​จาก​ที่​ท่าน​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย หรือ​พระเจ้า​เป็น​ผู้​เปิด​เผย​ให้​เปาโล​รู้—กจ 22:6-15; 1คร 15:6, 8

จูบ​ท่าน​อย่าง​นุ่มนวล: คำ​กริยา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “จูบ​อย่าง​นุ่มนวล” ใน​ข้อ​นี้​อยู่​ใน​รูป​คำ​ที่​แสดง​ความ​รู้สึก​มาก​กว่า​คำ​ว่า “จูบ” ใน มธ 26:48 การ​ที่​ยูดาส​ทักทาย​พระ​เยซู​อย่าง​อบอุ่น​และ​เป็น​มิตร​แบบ​นี้ แสดง​ว่า​เขา​เป็น​คน​หลอก​ลวง​และ​เสแสร้ง​อย่าง​มาก

กอด . . . เปาโล: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ก้ม​ลง​ที่​คอ​เปาโล” ใน​คัมภีร์​ไบเบิล การ​กอด​และ​จูบ​ใคร​คน​หนึ่ง​พร้อม​กับ​ร้องไห้​เป็น​การ​แสดง​ความ​รัก​อย่าง​มาก นี่​แสดง​ว่า​พวก​ผู้​ดู​แล​เหล่า​นี้​ต้อง​รัก​เปาโล​มาก​แน่ ๆ—ดู ปฐก 33:4; 45:14, 15; 46:29; ลก 15:20 ด้วย

จูบ​ลา​เปาโล: หรือ “จูบ​เปาโล​ด้วย​ความ​รัก” เปาโล​แสดง​ความ​รัก​แท้​ต่อ​พี่​น้อง​และ​นี่​ทำ​ให้​พี่​น้อง​รัก​เขา​มาก​ด้วย ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล ความ​รัก​แบบ​นี้​มัก​แสดง​ออก​โดย​การ​จูบ (ปฐก 27:26; 2ซม 19:39) และ​บาง​ครั้ง​ก็​จะ​จูบ​พร้อม​กับ​กอด​อย่าง​อบอุ่น​และ​ร้องไห้ (ปฐก 33:4; 45:14, 15; ลก 15:20) คำ​กริยา​กรีก​ใน​ข้อ​นี้​คือ ฟิเละโอ ที่​อยู่​ใน​รูป​คำ​ที่​แสดง​ความ​รู้สึก​อย่าง​มาก บาง​ครั้ง​มี​การ​แปล​คำ​นี้​ว่า “จูบ” (มธ 26:48; มก 14:44; ลก 22:47) แต่​ส่วน​ใหญ่​แล้ว​มัก​แปล​ว่า “รัก” (ยน 5:20; 11:3; 16:27)—เทียบ​กับข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 26:49

วีดีโอและรูปภาพ

เปาโลไปเยี่ยมเมืองมิเลทัส
เปาโลไปเยี่ยมเมืองมิเลทัส

จาก​แผนที่​เรา​จะ​เห็น​ว่า​เมือง​มิเลทัส​โบราณ​ตั้ง​อยู่​ตรง​ชายฝั่ง​ทาง​ตะวัน​ตก​ของ​เอเชีย​ไมเนอร์ (ประเทศ​ตุรกี​ใน​ปัจจุบัน) จาก​บันทึก​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ทำ​ให้​เรา​รู้​ว่า​เปาโล​ไป​เยี่ยม​เมือง​นี้​อย่าง​น้อย 2 ครั้ง ครั้ง​แรก​เป็น​ช่วง​ท้าย​ของ​การ​เดิน​ทาง​ใน​ฐานะ​มิชชันนารี​รอบ​ที่ 3 (ประมาณ​ปี ค.ศ. 56) ตอน​เดิน​ทาง​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม เปาโล​นั่ง​เรือ​มา​ถึง​เมือง​มิเลทัส เขา​เรียก​พวก​ผู้​ดู​แล​ใน​ประชาคม​ที่​เมือง​เอเฟซัส​ให้​มา​หา​เพื่อ​ประชุม​เรื่อง​สำคัญ เพื่อ​พวก​ผู้​ดู​แล​จะ​ไป​หา​เปาโล​ที่​เมือง​มิเลทัส พวก​เขา​ต้อง​เดิน​เท้า​หรือ​ใช้​เรือ​ซึ่ง​เป็น​ระยะ​ทาง​ประมาณ 70 กิโลเมตร หลัง​จาก​ร่ำ​ลา​กัน เปาโล​ก็​นั่ง​เรือ​ต่อ​ไป​ที่​อื่น (กจ 20:17-38) ดู​เหมือน​เปาโล​กลับ​มา​เยี่ยม​เมือง​มิเลทัส​อีก​ครั้ง​หลัง​จาก​ถูก​ปล่อย​ตัว​จาก​การ​ถูก​ขัง​ครั้ง​แรก​ใน​โรม เพราะ​ตอน​นั้น​เปาโล “ให้​โตรฟีมัส​อยู่​ที่​เมือง​มิเลทัส​เพราะ​เขา​ล้ม​ป่วย”—2

ทธ 4:20; ดู​แผนที่ “การ​เดิน​ทาง​ของ​เปาโล​หลัง​จาก​ปี ค.ศ. 61”

1. ส่วน​หนึ่ง​ของ​อ่าว​ใน​สมัย​โบราณ เนื่อง​จาก​การ​ตก​ตะกอน​ของ​ดิน ทำ​ให้​เมือง​มิเลทัส​ตั้ง​อยู่​บน​พื้น​ดิน​ที่​ห่าง​จาก​ชายฝั่ง​ประมาณ 8 กิโลเมตร

2. โรง​ละคร​สมัย​โบราณ​ที่​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ใน​ศตวรรษ​ที่ 3 ก่อน ค.ศ. มี​การ​ซ่อมแซม​โรง​ละคร​นี้​หลาย​ครั้ง

3. แผนที่​แสดง​ให้​เห็น​แนว​ชายฝั่ง​ใน​สมัย​โบราณ

ประกาศ​ตาม​บ้าน
ประกาศ​ตาม​บ้าน

หลัง​จาก​วัน​เพ็นเทคอสต์​ปี ค.ศ. 33 สาวก​ของ​พระ​เยซู​ก็​ยัง​ประกาศ​ข่าว​ดี​ตาม​บ้าน​ต่อ​ไป และ​ถึง​แม้​ได้​รับ​คำ​สั่ง​ให้ “เลิก​พูด” แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​พวก​สาวก​ก็​ยัง “สอน​และ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​พระ​เยซู​ผู้​เป็น​พระ​คริสต์ ทั้ง​ใน​วิหาร​และ​ตาม​บ้าน​เรือน​ทุก​ ๆ ​วัน” (กจ 5:40-42) ประมาณ​ปี ค.ศ. 56 อัครสาวก​เปาโล​บอก​พวก​ผู้​ดู​แล​ใน​เมือง​เอเฟซัส​ว่า “ผม​ไม่​เคย​ลังเล​ที่​จะ . . . สอน​พวก​คุณ​ทั้ง​ใน​ที่​สาธารณะ​และ​ตาม​บ้าน​ด้วย” (กจ 20:20) เปาโล​บอก​ด้วย​ว่า​เขา​พยายาม​ประกาศ​กับ​พวก​ผู้​ดู​แล​ตอน​ที่​พวก​เขา​ยัง​ไม่​ได้​เป็น​ผู้​เชื่อถือ​เพื่อ​ช่วย​ให้​พวก​เขา “กลับ​ใจ​แล้ว​หัน​มา​หา​พระเจ้า และ​เชื่อ​ใน​พระ​เยซู​ผู้​เป็น​นาย​ของ​เรา” (กจ 20:21) เมื่อ​เปาโล​เจอ​คน​ที่​มี​ความ​โน้ม​เอียง​อย่าง​ถูก​ต้อง เขา​ก็​จะ​กลับ​ไป​เยี่ยม​ที่​บ้าน​และ​สอน​เพิ่ม​เติม และ​ถ้า​คน​ที่​เปาโล​สอน​เข้า​มา​เป็น​ผู้​เชื่อถือ​แล้ว เปาโล​ก็​จะ​ช่วย​คน​เหล่า​นั้น​ให้​มี​ความ​เชื่อ​เข้มแข็ง​มาก​ขึ้น—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ กจ 5:42; 20:20

หมา​ป่า
หมา​ป่า

หมา​ป่า​ใน​อิสราเอล​เป็น​นัก​ล่า​ที่​ชอบ​ออก​หา​กิน​ตอน​กลางคืน (ฮบก 1:8) หมา​ป่า​เป็น​สัตว์​ที่​ดุ​ร้าย ตะกละ ใจ​กล้า และ​โลภ มัน​มัก​จะ​ฆ่า​แกะ​มาก​เกิน​กว่า​ที่​มัน​จะ​กิน​ได้​หรือ​ลาก​ไป​ได้ ใน​คัมภีร์​ไบเบิล มัก​มี​การ​ใช้​สัตว์​ต่าง ๆ รวม​ทั้ง​ลักษณะ​นิสัย​ของ​มัน​เป็น​ภาพ​เปรียบ​เทียบ​ทั้ง​ใน​ด้าน​ดี​และ​ไม่​ดี ตัว​อย่าง​เช่น ก่อน​ตาย​ยาโคบ​พยากรณ์​เกี่ยว​กับ​ตระกูล​เบนยามิน​ว่า​เป็น​นัก​สู้​เหมือน​หมา​ป่า (Canis lupus) (ปฐก 49:27) แต่​ส่วน​ใหญ่​แล้ว​มัก​มี​การ​เปรียบ​หมา​ป่า​กับ​คน​ที่​มี​นิสัย​ไม่​ดี เช่น ดุ​ร้าย โลภ ตะกละ และ​เจ้า​เล่ห์ คน​ที่​ถูก​เปรียบ​ว่า​เป็น​หมา​ป่า​มี​ทั้ง​ผู้​พยากรณ์​เท็จ (มธ 7:15) ผู้​ต่อ​ต้าน​ที่​โหด​ร้าย​ซึ่ง​ต่อ​ต้าน​งาน​รับใช้​ของ​คริสเตียน (มธ 10:16; ลก 10:3) และ​พวก​ผู้​สอน​เท็จ​ซึ่ง​ทำ​ให้​ประชาคม​คริสเตียน​ตก​อยู่​ใน​อันตราย (กจ 20:29, 30) ผู้​เลี้ยง​แกะ​จะ​ต้อง​รู้​ว่า​หมา​ป่า​จะ​มา​ทำ​อันตราย​อะไร พระ​เยซู​พูด​ถึง “ลูกจ้าง” ซึ่ง “เมื่อ​เห็น​หมา​ป่า​มา เขา​ก็​ทิ้ง​ฝูง​แกะ​แล้ว​หนี​ไป” พระ​เยซู​ต่าง​จาก​ลูกจ้าง​คน​นั้น​ที่ “ไม่​ได้​เป็น​ห่วง​แกะ​จริง ๆ” ท่าน​เป็น “คน​เลี้ยง​แกะ​ที่​ดี” ซึ่ง​ยอม “สละ​ชีวิต​เพื่อ​แกะ”—ยน 10:11-13